"คำนี้ต้องออกเสียงสูง
พยางค์นี้ต้องออกเสียงต่ำ จำเอาไว้ให้ดีนะคะนักเรียน"
ผมเชื่อว่า คนใน Generation X
และคนรุ่นก่อนหน้านั้น (อาจรวมถึงนักเรียนไทยในยุคปัจจุบันนี้ด้วย)
ต้องเคยได้ยินคำสอนในลักษณะดังกล่าว จากครูที่สอนวิชาภาษาอังกฤษในโรงเรียนทั่วไป
โชคร้ายที่คำสอนดังกล่าว
ส่งผลให้เด็กไทยส่วนใหญ่ ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หากคุณเคยเป็นหนึ่งในบรรดานักเรียนที่ถูกสอนมาเช่นนั้น
มันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คุณพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
จนกระทั่งพูดได้คล่องเหมือนเจ้าของภาษา เพราะคุณลักษณะสำคัญที่ถือเป็นตัวชี้วัดว่า
คุณพูดเหมือนเจ้าของภาษาหรือไม่นั้น คือ….
การพูดได้อย่างลื่นไหลและฟังดูเป็นธรรมชาติ
การพูดอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ
จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าคุณมัวแต่ต้องคอยใช้สมองคิดว่า
คำไหนต้องออกเสียงสูงและคำไหนต้องออกเสียงต่ำ ก่อนที่จะพูดออกมาแต่ละคำ?
ประเด็นก็คือ คำสอนดังกล่าวของครูภาษาอังกฤษ
ที่คุณอาจจำฝังใจมาตั้งแต่สมัยเรียนนั้น มันผิด!
ที่จริงแล้ว ไม่มีกฏเกณฑ์ข้อไหนในการพูดภาษาอังกฤษที่ระบุว่า
คำใดต้องออกเสียงสูงหรือคำใดต้องออกเสียงต่ำ
การที่เสียงจะสูงหรือต่ำ
มันขึ้นอยู่กับบริบทและอารมณ์ความรู้สึกในขณะที่พูดคำๆนั้นออกมาต่างหาก
ตัวอย่างเช่น คำว่า man ที่ออกเสียงว่า แมน
สมมติว่า มีชาวผิวดำสองคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
บังเอิญเดินผ่านมาเจอกันที่ริมถนน พวกเขาอาจจะทักทายกันอย่างสนิทสนมว่า...
"What's up,...