ในข้อสอบภาษาอังกฤษ เรามักจะเจอวลีในชีวิตประจำวันทั่วไปค่อนข้างเยอะกว่าปกติ ซึ่งในบทความนี้เราจะแบ่งย่อยเป็นสถานการณ์ ในแต่ละสถานการณ์ก็จะมีวลีที่แตกต่างกันออกไป เพราะงั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า
สถานการณ์แรกคือการทักทาย
- What’s up?
ว่าไง, เป็นไงบ้าง
- What’s new?
มีอะไรอัพเดทเปล่า
- What have you been up to lately?
ช่วงหลังนี้เธอไปทำอะไรมา
- How’s it going?
เป็นไงบ้าง
- How are things?
สบายดีไหม
- How’s life?
ชีวิตเป็นไงบ้างช่วงนี้
สถานการณ์ต่อมาคือสถานการณ์ที่เอาไว้บอกสถานะของเรา เอาไว้ใช้
ตอบกับคำถามข้างบน
- I’m fine, thanks. How about you?
ฉันสบายดีแล้วคุณล่ะ
- Pretty good.
ก็สบายดีนะ
- Same as always
ก็เหมือนเดิมแหละ
- Not so great.
ก็ไม่ได้พิเศษอะไร
- Could be better
มันน่าจะดีได้กว่านี้แหละ
- can’t complain
ฉันบ่นไม่ได้อ่ะ
วลีที่เอาไว้พูดแทนคำว่า thank you
- I really appreciate it.
ฉันซาบซึ้งมากๆนะ
- I’m really grateful
ฉันซึ้งใจมาก
- That’s so kind of you.
คุณช่างใจดีอะไรขนาดนี้
- I owe you one. (this means you want/need to do a favor for the other person in the future)
ฉันเป็นหนี้บุญคุณคุณแล้วนะ
วลีที่เอาไว้ตอบถ้ามีคนขอบคุณ Thank You เรา
- No problem.
ไม่มีปัญหา
- No worries
ไม่ต้องห่วง
- Don’t mention it.
เอาน่าไม่ต้องพูดถึงมันหรอก
- My pleasure.
ด้วยความยินดี
- Anytime.
ได้ตลอดแหละ
วลีทั่วไปที่เอาไว้จบบทสนทนาหรือเอาไว้ปิดบทสนทนานั่นเอง
- It was nice chatting with you.
มันเป็นอะไรที่ดีงามมากเลยที่ได้คุยกับคุณ
- Anyway, I should get going.
ยังไงก็เถอะฉันควรต้องไปแล้ว
วลีที่เอาไว้ถามข้อมูลทั่วไป:
- Do you have any idea…?
คุณมีความคิดเห็นอย่างไร
- Would you happen to know…?
คุณพอจะรู้ไหมว่า….
วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่เราไม่รู้เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง:
- I have no idea/clue.
ฉันไม่รู้เลย
- I can’t help you there.
ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ (เพราะไม่รู้)
- I’m not really sure.
ฉันไม่ค่อยมั่นใจจริงๆ
- I’ve been wondering that, too.
ฉันก็สงสัยมันเหมือนกัน
วลีที่เอาไว้ใช่ตอนที่เราเห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง:
- Exactly.
ใช่เลย
- Absolutely.
อย่างเเน่นอนเลย
- That’s so true.
จริงทีสุดเลย
- That’s for sure.
อย่างเเน่นอนเลย
- I agree 100%
ฉันเห็นด้วย 100%
- I couldn’t agree with you more.
ฉันเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ
วลีที่เอาไว้ใช่ตอนที่เราไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง:
- I’m not so sure about that.
ฉันไม่ค่อยเเน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย
- That’s not how I see it.
มันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลยอะ
- Not necessarily
ฉันว่ามันไม่จำเป็นนะ
วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่ได้ยินข่าวดี:
- That’s great!
เยี่ยมเลย
- How wonderful!
สุดยอดมาก
- Awesome!
เยี่ยมมาก
วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่ได้ยินข่าวร้าย:
- Oh no…
ไม่นะ
- That’s terrible.
นั่นมันเเย่มากนะ
- Poor you.
คุณช่างน่าสงสารจัง
- I’m so sorry to hear that.
ฉันขอโทษที่ได้ยินแบบนั้นนะ
วลีทั่วไปที่เอาไว้ใช้เชิญ:
- Are you free…
คุณพอจะว่างช่วง…ไหม
- Are you doing anything… [Saturday night? ในวันเสาร์กลางคืน]
คุณทำอะไรไหมวัน…นี้
- (ไม่ทางการ) Do you wanna… [see a movie ดูหนังกันไหม?]
คุณอยากจะ…..
- (ทางการ)Would you like to… [join me for dinner? มาร่วมทานอาหารเย็นกันไหม]
คุณอยากจะ…..
วลีที่เอาไว้ใช้เกี่ยวกับอาหาร:
- I’m starving!
ฉันหิวมากๆ
- Let’s grab a bite to eat.
ไปหาอะไรกินกันเถอะ
- How about eating out tonight?
(eat out ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้าน)
- I’ll have… (use this phrase for ordering in a restaurant)
วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่อากาศร้อน:
- It’s absolutely boiling! (boiling = ร้อนมากๆ)
ฉันจะละลายอยู่แล้ว
- it scorching hot outside
ข้างนอกมันร้อนมากๆ จะตายอยู่แล้ว
วลีที่เอาไว้ใช้บอกว่าเราเหนื่อย:
- I’m exhausted.
ฉันล้ามาก (เหนื่อมาก)
- I’m dead tired.
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน (เหนื่อยแบบจะตาย)
- I can hardly keep my eyes open
ฉันแทบจะเปิดตาไม่ได้แล้วเนี่ย
- I’m gonna hit the sack. (hit the sack แปลว่า ไปนอน)
ฉันจะไปนอนแล้วนะ