Short form ฉบับเข้าใจง่ายรวบรัด

5332


ในภาษาอังกฤษนั้นเราจะมีรูป form ที่เรียกว่า short from ตัวอย่างเช่น he’s,  I’d, don’t ซึ่งนั่นก็คือการรูปนั้นเอง ในการพูดภาษาอังกฤษเรามักจะออกเสียง I am เป็นคำเดียว ซึ่งรูป short from ของมันก็คือ I’m จึงเป็นลักษณะหนึ่งของการเขียนคําอย่างเช่นตัวอย่างดังต่อไปนี้ 

  • I am → I’m = I’m feeling tired this morning. 
  • It is → It’s = Do you like this jacket? Yes, it’s very nice.
  • They have → They’ve = Where are your friends? They’ve gone home.

.
.
.

.

เวลาที่เราเขียน Short form เราใช้  ’ หรือ an apostrophe ตัวอย่างเช่น 

I am ก็จะเป็น I’m

He is ก็จะเป็น He’s

You have ก็จะเป็น You’ve

She will ก็จะเป็น She’ll
.
.
.

และสิ่งที่กำลังจะพูดต่อจากนี้นั่นก็คือหลักการใช้ Short form กลับ Personal pronouns ต่างๆ

  • am / ’m / I’m
  • is / ’s / he’s / she’s /it’s
  • are / ’re / we’re / you’re / they’re
  • have / ’ve / I’ve / we’ve / you’ve / they’ve
  • has / ’s / he’s / she’s / it’s
  • had / ’d / I’d / he’d / she’d / we’d / you’d / they’d
  • will / ’ll / I’ll / he’ll / she’ll / we’ll / you’ll / they’ll
  • would / ’d / I’d / he’d / she’d / we’d / you’d / they’d

  ตัวอย่างก็อย่างเช่น 

  • I’ve got some new shoes. ฉันมีรองเท้าใหม่
  • We’ll probably go out this evening. เราคงจะออกไปข้างนอกเย็นนี้
  • It’s 10 o’clock. you’re late again. ตอนนี้ 10:00 น คุณมาสายอีกแล้ว 

.
.
.

และเนื่องจากมีบางรูปที่เขียนย่อเหมือนกัน แต่ตัวรูปเต็มนั้นไม่ได้เหมือนกัน อาจจะสามารถสร้างความสับสนได้ อย่างไรก็ตามควรดูที่บริบทของประโยคนั้นๆว่าควรเป็น Tense ไหนเป็นหลัก แบบนี้จะช่วยได้เยอะ ตัวอย่างเช่น 

’s = is หรือ has เช่น

  • She’s going out this evening. เธอจะออกไปข้างนอกเย็นนี้ 
    (ดูได้จากรูปที่เป็นของ Present Continuous เราจึงสามารถรู้ได้เลยว่า ‘s คือ is)
  • She’s gone out. เธอออกไปแล้ว 
    (ดูได้จากรูปที่เป็นรูปของ Present Perfect เราจึงสามารถรู้ได้เลยว่า ‘s คือ has สามารถสังเกตได้จาก gone)

’d = would หรือ had เช่น

  • A: What would you like to eat? คุณอยากทานอะไร
    B: I’d like a salad please. ฉันต้องการสลัด
    (ดูได้จากรูปที่เป็นของ would เนื่องจากประโยคคำถามนั้นใช้ would เหมือนกัน ดังนั้น ‘d ก็คือ would )
  • I told the police that I’d lost my passport. ฉันบอกตำรวจว่าฉันทำพาสปอร์ตหาย
    (แน่นอนว่าประโยคนี้เป็นประโยคที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วในอดีต จึงต้องใช้ Present Perfectสังเกตได้จากคำว่า lost ดังนั้น ‘d จึงเป็น had)

.
.
.

นอกเหนือจากนี้เราสามารถใช้ Short form คำอื่นได้ด้วยนอกเหนือจาก Personal pronouns ตัวอย่างเช่น 

  • Who’s your favourite singer?
    นักร้องคนโปรดของคุณคือใคร? (มาจาก who is) 
  • What’s the time? (= what is)
    ตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว (มาจาก what is)
  • There’s a big tree in the garden. (= there is)
    มีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ในสวน (มาจาก there is)
  • My sister’s working in London. (= my sister is)
    พี่สาวของฉันทำงานอยู่ที่ลอนดอน (มาจาก my sister is)
  • Peter’s gone out. (= Peter has)
    ปีเตอร์ออกไปแล้ว (มาจาก Peter has)
  • What colour’s your car? (= What colour is )
    รถของคุณสีอะไรหรอ (มาจากWhat colour is )

.
.
.

เอาล่ะเราได้พูดถึงการใช้คำที่ลดรูปในรูปแบบของการบอกเล่า ทีนี้มาดูกันว่าถ้าเป็นรูปย่อปฏิเสธหรือ  negative short form จะมีอะไรบ้าง 

  • isn’t (is not) / don’t (do not) / can’t (cannot)
  • aren’t (are not) / doesn’t (does not) / couldn’t (could not)
  • wasn’t (was not) / didn’t (did not) / won’t (will not)
  • weren’t (were not) / wouldn’t (would not)
  • hasn’t (has not) / shouldn’t (should not)
  • haven’t (have not) / mustn’t (must not)
  • hadn’t (had not) / needn’t (need not)

ตัวอย่างเช่น 

  • We went to her house but she wasn’t at home.
  • Where’s David? I don’t know, I haven’t seen him.
  • You work all the time. You shouldn’t work so hard.
  • I won’t be here tomorrow.

Share
.