คำว่า to กับ for ถึงแม้จะเป็นคำที่แปลง่ายๆทั้ง 2 คำ แต่เมื่อต้องนำมาใช้ในการแต่งประโยค หลายๆคนมักจะสับสนกันใช่ไหมล่ะครับว่า จะใช้ตัวไหนในการเชื่อมคำดี
หลักการเบื้องต้นง่ายๆ คือ เราจะใช้คำว่า to เมื่อกล่าวถึงการเคลื่อนที่ หรือย้ายจากจุดหนึ่งหรือไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือมีการโอน ย้าย ส่งต่อ แลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างกัน
ตัวอย่างเช่น
I’ll drive you to school.
(ฉันจะขับรถไปส่งเธอที่โรงเรียนนะ)
นอกจากนี้ เรายังใช้ to ได้มากกว่าหนึ่งคำในประโยคเดียวกัน โดยเฉพาะในการบ่งบอกความต้องการ
ตัวอย่างเช่น
I want to talk to you.
(ฉันต้องการคุยกับคุณ)
เราสามารถใช้คำว่า with แทนคำว่า to ตัวหลังได้ด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น
I want to talk with you.
(ฉันต้องการคุยกับคุณ)
ความหมายก็จะคล้ายๆกันกับประโยคข้างต้น
ส่วนคำว่า for เราจะใช้ในการบ่งบอกวัตถุประสงค์ที่ทำด้วยความตั้งใจ สำหรับบางคนหรือบางสิ่ง
ตัวอย่างเช่น
I sing this song for you.
(ฉันร้องเพลงนี้เพื่อมอบให้แก่คุณ)
อีกกรณีหนึ่งที่ทำให้น้องๆมักจะสับสนกับการใช้คำว่า to/for คือกรณีที่มีคำแปลเป็นไทยว่า ‘สำหรับ’ รวมอยู่ในประโยคด้วย
ตัวอย่างเช่น ประโยคที่ว่า……
“คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉัน”
หลายคนอาจจะพูดหรือเขียนผิดว่า….
“You are important for me.”
เพราะเห็นว่า for แปลว่า ‘สำหรับ’
อย่างไรก็ตาม ที่ถูกต้อง เราต้องเขียนหรือพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า….
“You are important to me.”
กล่าวคือ เราต้องใช้ to + someone ในกรณีที่จะต้องการสื่อถึงความรู้สึกกับใครบางคน
ตัวอย่างเช่น เนื้อร้องของเพลงฮิตเพลงหนึ่ง ที่ว่า….
“You are so beautiful……to me.”
(ร้องเสียงสูงตอนท้ายด้วยนะครับ จะได้ฟังเหมือนเพลงต้นฉบับ)
หรือประโยคที่ว่า “You are everything to me.” เป็นต้น
*สำหรับใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถกดปุ่ม inbox มุมขวาล่าง ทักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ*
คำถามทดสอบ:
1) ข้อใดใช้คำได้ถูกต้อง
a. He sent this letter to you.
b. He sent this letter for you.
c. ถูกทั้ง a. และ b.
d. ผิดทั้ง a. และ b.
2) ข้อใดใช้คำได้ถูกต้อง
a. She made this for you.
b. She made this to you.
c. ถูกทั้ง a. และ b.
d. ผิดทั้ง a. และ b.
3) ข้อใดเติมได้ทั้ง to และ for
a. I did it _ you.
b. He works _ me.
c. ถูกทั้ง a. และ b.
d. ผิดทั้ง a. และ b.
เฉลย
1. (ข้อ c.) เพราะไม่มีการกำหนดบริบทมา จึงใช้ได้ทั้ง to และ for เพียงแต่ความหมายจะต่างกันเท่านั้นเองครับ
2. (ข้อ a.) ส่วนข้อ b. ไม่ได้ความหมายใดๆครับ
3. (ข้อ a.) ส่วนข้อ b. ต้องเติมคำว่า for จึงจะมีความหมายได้ใจความ