ดูเหมือนช่วงนี้ทุกพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจะได้รับความชุ่มฉ่ำจากฝนเป็นพิเศษ ฝนมักจะมาในเวลาที่เราไปทำงานและตอนเลิกงานตลอด เดินทางลำบากไปอีก ช่วงนี้อย่าลืมพกร่ม เสื้อกันฝน และมั่นดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงกันด้วยนะ
พอพูดถึง”ฝน” ก็มีหลากหลายสำนวนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับฝน เรามาเรียนรุ้สำนวนเหล่านี้ให้เข้ากับสถานการณ์และสภาพเย็นๆแบบนี้ไปพร้อมกัน
เริ่มต้นด้วย
- Right as rain สำนวนนี้แปลว่ากลับมาเป็นปกติแล้ว ใช้กับเวลาที่เราเจ็บป่วยไม่สบายแล้วอาการเหล่านั้นดีขึ้นแล้วหายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม หรือ ใช้เวลาที่มีคนถามว่าเป็นยังไงบ้างทุกอย่างโอเคมั้ย ใช้ right as rain เป็นการบอกว่า ทุกอย่างราบรื่นดีนะ
ยกตัวอย่าง
Jack was very ill, but he’s right as rain now.
แจ็คเคยป่วยหนักแต่นี่เค้าหายดีแล้วละ
2. When it rains, it pours. ก่อนอื่นมาดูที่คำว่า pours ก่อนซึ่งแปลว่า เท หรือรินอะไรสักอย่าง แน่นอนว่า pours ในบริบทนี่แปลว่าเท เหมือนเวลาเราพูดว่า ฝนเทลงมาหนักมาก ความหมายสำนวนนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับตัวเขียนอยู่ประมาณว่า เวลาฝนตกนะไม่ใช่ตกแบบธรรมดาแต่ฝนลงมาเหมือนฟ้าถล่ม จึงมีความหมายในเชิงเปรียบเปรยว่า เวลาโชคร้ายนะ มันจะโชคร้ายไปหมดเลย เวลาแย่เรื่องนึง ก็แย่ไปหมดทุกเรื่อง เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ยกตัวอย่างเช่น
“Well, first we had the car accident and then this fire burnt half of our house down. As they say, when it rains it pours.”
ก็ตอนแรกพวกเราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากนั้นครั้งนี้ไฟไหม้บ้านพวกเราไปตั้งครึ่งนึงอีก เหมือนที่เค้าว่ากัน เวลาซวยทีนึงก็ซวยหนักเลย
3. Rain on someone’s parade สำนวนนี้ให้เรานึกถึงงานกีฬากีเวลาที่โรงเรียนกำลังเดินพาเหรด ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่กลางแจ้ง จู่ๆฝนก็ดันเทลงมาซะได้ ทุกคนต้องหาที่ร่มหลบฝนกัน โครงการเป็นอันต้องผับไปก่อน
สำนวนนี้จึงหมายถึง ทำให้หมดสนุกหรือเสียแผน
ยกตัวอย่างเช่น
Emmy and her friend were planning to take a trip to Paris soon. However, as she was looking up flights, her friend said: “I don’t mean to rain on your parade, but our Paris vacation will have to be delayed until later this year.”
เอมมี่และเพื่อนวางแผนว่าจะไปเที่ยวปารีสเร็วๆนี้แม้ว่าหล่อนกำลังมองหาเที่ยวบินอยู่ และเพื่อนหล่อนก็พูดขึ้นว่า ฉันไม่ได้อยากทำให้เธอหมดสนุกหรอกนะแต่ว่าทริปปารีสของพวกเราต้องเลื่อนออกไปจนถึงปลายปีนี้แล้วละ
4. Save something for a rainy day เพราะส่วนใหญ่เรามักจะเปรียบเทียบฝนกับช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือปัญหาต่างๆ เช่นคำที่ว่า ฝนคงไม่ตกในทุกวัน เป็นการเปยๆว่า คงไม่ผิดหวังไปซะทุกวันหรอก
Save something for a rainy day สำนวนนี้จึงมีความหมายว่า เก็บออม สำรอง สิ่งที่จำเป็นเอาใช้ในยามคับขับ เช่นเงิน
ยกตัวอย่างเช่น
Any financial adviser will tell you that you should save six months’ worth of your income for a rainy day.
ที่ปรึกษาทางการเงินบอกว่าคุณควรประหยัดรายได้หกเดือนไว้ใช้ในยามจำเป็น
5. Rain or shine สำนวนนี้แปลตามตัวเป็น คำว่าฝนตกหรือแดดออก เหมือนเราจะบอกว่า ฉันจะไปเที่ยวไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก สำนวนนี้มีความหมายว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ยกตัวอย่างเช่น
He always goes for a walk in the evening, rain or shine.
ไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกหรือยังไง เค้าก็ออกไปเดินตอนเย็นเสมอ
อ่านจบแล้วยังไงก็อย่าลืมตัวเองด้วยนะคะ ที่สำคัญ ใครรู้ตัวว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ก็ติดตามข่าวกันดีๆนะคะ เพราะฝนตกหนักต่อเนื่องขนาดนี้ สิ่งที่จะมาคงไม่ใช่แค่วลีอังกฤษแน่นอน