หลายครั้งการขอรบกวน หรือขอขัดจังหวะในเหตุการณ์บางอย่างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราก็ไม่ทราบว่าจะสื่อสารออกไปอย่างไรดี วันนี้ครูณิชาก็รวบรวมประโยคขอขัดจังหวะในเหตุการณ์ต่าง ๆ มาฝากค่ะ
สำหรับการขอขัดจังหวะวงสนทนาที่กำลังดำเนินไปได้ด้วยดีนั้นหลาย ๆ คนอาจจะนึกคำพูดไม่ออก ว่าจะพูดอย่างไร วันนี้ครูณิชาเรียบเรียงไว้ให้แล้ว สำหรับใครที่ต้องการบทเรียนดี ๆ แบบนี้ส่งเข้าเมลฟรีทุกวัน สามารถลงทะเบียนรับ eBook ได้ฟรีผ่านทางแบบฟอร์มที่ปรากฎที่หน้าจอได้เลยค่ะ [นักเรียน Engnow.in.th ได้รับสิทธิพิเศษนี้ฟรีตลอด 1 ปี ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มจ้า]
การขอขัดจังหวะผู้อื่นแบบสุภาพ ตามสถานการณ์ต่าง ๆ
เมื่อคุณต้องการจะบอกอะไรสักอย่าง:
— I hate to interrupt but I wanted to let you know I have
to leave the meeting early.
ฉันไม่ชอบที่จะขัดจังหวะแต่ฉันต้องการจะแจ้งให้พวกคุณทราบว่าฉันต้องออกจากการประชุมก่อนเวลา
— I’m so sorry to interrupt but…
ฉันเสียใจที่ต้องขัดจังหวะนะ แต่ … (ตามด้วยประโยคที่จะพูด)
— I don’t mean to be rude but may I interrupt quickly?
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคาย (rude
= หยาบคาย – เสียมารยาท) แต่ขอขัดจังหวะสักนิดนะ
(quickly – อย่างไว ๆ)
เมื่อต้องการจะจบการสนทนา:
— I’m terribly sorry to interrupt you but I have to be at work for a meeting shortly and must get going. It was wonderful to see you. Have a nice day. ฉันเสียใจ/ขอโทษอย่างสุดซึ้งที่ขัดจังหวะคุณ (พวกคุณ) แต่ฉันต้องไปที่ทำงานเพื่อการประชุมแล้วและต้องไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่วิเศษณ์มากที่ได้พบพวกคุณ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ (get going ในประโยคนี้คือต้องไป ต้องจากแล้ว)
— Oh! Sorry to interrupt but I just noticed the time and I
need to get to work. I’m very sorry. But it was great chatting with you.
โอ้ ขอโทษ/เสียใจที่ต้องขัดจังหวะแต่ฉันจะแจ้งให้ทราบว่าเป็นเวลาที่ฉันต้องไปทำงานแล้ว
ฉันขอโทษ/เสียใจจริง ๆ แต่มันยอดเยี่ยมมากเลยที่ได้สนทนา/พูดคุยกับคุณ/พวกคุณ
เมื่อต้องจะถามคำถามหรือต้องการความชัดเจนบางประการ:
— Sorry to interrupt but may I ask a quick question?
ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะแค่ขอฉันถามอะไรนิดนึงได้มั้ย
— I’m so sorry for interrupting but I’d like to make sure
I understood you correctly.
ฉันขอโทษ/เสียใจสำหรับการขัดจังหวะแต่ฉันอยากจะต้องการความแน่ใจว่าฉันเข้าใจคุณอย่างถูกต้อง
… (ตามด้วยสิ่ง/ประโยคที่จะถาม)
— I don’t mean to be rude but I’d like to ask a question.
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคาย/เสียมารยาท
แต่ฉันอยากจะถามสักคำถามหนึ่ง
เมื่อต้องการเข้าร่วมวงสนทนาหรือแสดงความคิดเห็น:
— So sorry to interrupt but before we move on, I’d like to
add my thoughts on this topic.
เสียใจ/ขอโทษที่ขัดจังหวะแต่ก่อนเราจะไปเรื่องต่อไป (move on = ไปต่อในเรื่องถัดไป) ฉันอยากจะขอเพิ่มเติมความคิด(เห็น)ของฉันในหัวข้อนี้สักหน่อย
— Excuse me but may I jump in here?
ขอโทษนะ แต่ขอแทรกตรงนี้หน่อยนะ
— May I add something quickly?
ขออนุญาตเพิ่มเติมบางอย่างนิดนึงนะ
สำหรับประโยคการขอขัดจังหวะทั้ง 11 ประโยคนี้ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งการสนทนาทั่ว ๆ ไปหรือการสนทนาแบบกึ่งทางการหรือรวมไปถึงที่ค่อนข้างจะเป็นทางการได้ ดังนั้นครูณิชาอยากให้ทุกคนจดประโยคเหล่านี้เก็บไว้ใช้ในภายภาคหน้าด้วยจ้า สำหรับวันนี้ครูณิชาขอตัวไปก่อน สวัสดีค่า 😊