การฟังภาษาอังกฤษออกหรือรู้เรื่องจะต้องทำอย่างไร? วันนี้ครูณิชามีคำตอบค่ะ
การจะพัฒนาทักษะการฟังให้ฟังออก ชัดเจน เป็นหน่วยคำมากขึ้นนั้นจะเกิดจากองค์ปประกอบสองอย่างเข้าด้วยกันคือ 1) วงคำศัพท์มากพอ 2) รู้จักการ pronounce (ออกเสียงของคำเหล่านั้น) เพราะการจะฟังออกคือเกิดจากการรู้แน่ชัดเสียก่อนว่าคำนั้น ๆ ออกเสียงอย่างไร และการฟังรู้เรื่องต้องมีคำศัพท์มากพอในการทำความเข้าใจและตีความนั้น ๆ ค่ะ
ภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาหนึ่งที่มีการผสมคำด้วยผยัญชนะและสระ ดังนั้นรูปแบบการอ่านออกเสียงจึงเป็นสิ่งที่ “พอจะ” เรียนรู้ได้ค่ะ แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่าใช้คำว่า “พอจะ” เรียนรู้ได้อยู่บ้าง เพราะภาษาอังกฤษมีกฎการออกเสียงแบบเน้นพยางค์ พยางค์ที่ไม่เน้นเสียง อะไรแบบนี้ด้วย จึงทำให้การอ่านออกเสียงนอกเหนือจากการอธิบายเหล่านี้อยู่บ้าง (แต่ครูณิชาจะพยายามอธิบายให้ชัดเจนและรัดกุมที่สุดค่ะ)
มาเริ่มด้วยเสียงพยัญชนะกันเลยค่ะ
พ | /p/ | pen | /pen/ | |
บ | /b/ | bad | /bæd/ | |
ท | /t/ | tea | /tiː/ | |
ด | /d/ | did | /dɪd/ | |
ค | /k/ | cat | /kæt/ | |
ก | /ɡ/ | get | /ɡet/ | *เสียงนาสิก (ขึ้นจมูก) |
ช* | /tʃ/ | chain | /tʃeɪn/ | |
จ* | /dʒ/ | jam | /dʒæm/ | |
ฟ | /f/ | fall | /fɔːl/ | |
ฟว1 | /v/ | van | /væn/ | |
ธซ2 | /θ/ | thin | /θɪn/ | |
ดซ3 | /ð/ | this | /ðɪs/ | |
ซ,ส | /s/ | See | /siː/ | |
ซ,ส | /z/ | zoo | /zuː/ | *ฟันสั่นสะเทือน (เสียงสั่น) |
ฌ | /ʃ/ | shoe | /ʃuː/ | |
ช | /ʒ/ | vision | /ˈvɪʒn/ | *เสียงสั่นสะเทือน |
ห,ฮ | /h/ | hat | /hæt/ | *พ่นลม |
ม | /m/ | man | /mæn/ | *เสียงนาสิก (ขึ้นจมูก) |
น | /n/ | now | /naʊ/ | *เสียงนาสิก (ขึ้นจมูก) |
ง | /ŋ/ | sing | /sɪŋ/ | *เสียงนาสิก (ขึ้นจมูก) |
ล | /l/ | leg | /leɡ/ | |
ร | /r/ | red | /red/ | |
ย | /j/ | yes | /jes/ | |
ว | /w/ | wet | /wet/ |
[1] ฟันบนแตะริมฝีปากล่างเป่าลมและออกเสียง /ว/
[2-3] กัดปลายลิ้นเบาๆ ปล่อยลมออกไรฟันและออกเสียง ด, ธ
*เป็นเสียงพยัญชนะซ้อน อักษรเสียงตัวแรกหมายถึงตำแหน่งลิ้น อักษรเสียงตัวที่สอง คือ เสียงที่เปล่งออกมา เช่น /tʃ/ ตำแหน่งลิ้นอยู่ที่ตำแหน่งจะออกเสียง /t/ แต่เปล่งเสียง /ʃ/ และเสียง /dʒ/ ก็มีการออกเสียงเช่นเดียวกัน
Vowels and diphthongs (สระ + สระประสม)
ี | /iː/ | see | /siː/ |
ิ+ี | /i/ | happy | /ˈhæpi/ |
ิ | /ɪ/ | sit | /sɪt/ |
เ–ะ,เ็ | /e/ | ten | /ten/ |
แ- | /æ/ | cat | /kæt/ |
-า | /ɑː/ | father | /ˈfɑːðə(r)/ |
เ–าะ, ็อ | /ɒ/ | got | /ɡɒt/ แบบอังกฤษเสียงจะก้อง |
-อ | /ɔː/ | saw | /sɔː/ |
ุ | /ʊ/ | put | /pʊt/ |
ุ | /u/ | actual | /ˈæktʃuəl |
ู | /uː/ | too | /tuː/ |
–ะ, ั | /ʌ/ | cup | /kʌp/ |
เ-อ | /ɜː/ | fur | /fɜː(r)/ |
เ-อะ, เิ | /ə/ | about | /əˈbaʊt/ |
เ– | /eɪ/ | say | /seɪ/ |
โ– | /əʊ/ | go | /ɡəʊ/ (British English) อังกฤษ |
โ– | /oʊ/ | go | /ɡoʊ/ (American English) อเมริกัน |
–าย, ไ | /aɪ/ | my | /maɪ/ |
–อย | /ɔɪ/ | boy | /bɔɪ/ |
–าว | /aʊ/ | now | /naʊ/ |
เีย | /ɪə/ | near | /nɪə(r)/ (British English) อังกฤษ |
แ– | /eə/ | hair | /heə(r)/ (British English) อังกฤษ |
ิว | /ʊə/ | pure | /pjʊə(r)/ (British English) อังกฤษ |
*เป็นการเทียบเคียงกับเสียงสระไทยเท่านั้น ซึ่งจะไม่เหมือนกันทีเดียว และสำหรับเสียงสระผสมนั้นเกิดจากเสียงสระ สองเสียงผสมกัน ซึ่งจะเทียบเคียงได้กับเสียงสระผสมในภาษาไทย แต่ไม่เหมือนกันนัก ควรผสมเสียงสระในขณะเปล่งเสียง จะสามารถทำให้ออกเสียงสระภาษาอังกฤษได้ใกล้เคียงที่สุด เช่น /aʊ/ คือเสียง อะ และ อุ ผสมกันนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะการออกเสียงที่ครูณิชารวบรวมมาให้ ลองเทียบอักษร การออกเสียงภาษาอังกฤษ อยากให้ทุกคน Print การออกเสียงนี้ไว้และลองเทียบอักษรในการอ่านออกเสียงดูนะคะ สัญลักษณ์ในเครื่องหมาย / / เป็นสัญลักษณ์สัทศาสตร์ในอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษค่ะ สำหรับวันนี้ครูณิชาขอตัวไปก่อนค่ะ พบกันใหม่บททความหน้าค่า 😊