fingerprint – หมายถึงรอยนิ้วมือ ซึ่งเป็นรอยประทับที่เกิดจากความชื้นหรือไขมันจากร่องขอบของลายนิ้วมือของมนุษย์ทิ้งเอาไว้บนพื้นผิวต่างๆ เอาไปใช้ในทางพิสูจน์ตัวบุคคลได้
(โดยถือว่าเป็นข้อมูล’ชีวมาตร’ (biometric) ประเภทหนึ่ง) เพราะแต่ละคนจะมีไม่ซ้ำลายกัน และไม่เปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต เว้นแต่อาจมีการเลือนจางจากผิวหนังที่สึกตามการใช้งานและอายุได้ โดยนับจากข้อนิ้วส่วนบนสุดของแต่ละนิ้ว หากใช้แค่นิ้วเดียวมักจะใช้นิ้วชี้เป็นหลัก
ปกติมักจะพบคำ fingerprint ในรูปคำนามทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ แต่ก็ใช้เป็นคำกริยาได้ ซึ่งมักพบในรูป passive voice โดยแปลว่า ถูกจับพิมพ์ลายนิ้วมือ
ตัวอย่าง:
• It is not true that identical twins have identical fingerprints. (ไม่ใช่เรื่องจริงที่ว่าฝาแฝดไข่ใบเดียวกันจะมีรอยนิ้วมือเหมือนกัน)
footprint – แต่เดิม หมายถึง รอยเท้า ทั้งของคนและสัตว์ (ของสัตว์เรียกอีกอย่างได้ว่า animal track) เป็นคำนามที่นับได้ โดยมากจะเขียนติดกัน (อาจพบเขียนแยกคำกันแบบ foot print ได้น้อยมาก พบบ้างในกรณีที่ต้องเทียบกับคำอื่นอย่าง hand and foot print) และยังมีความหมายรอง ที่สื่อถึงร่องรอยที่มนุษย์ทิ้งไว้หลังทำกิจกรรมบางอย่าง ซึ่งเป็นการใช้ในทางเปรียบเปรย เหมือนกับคำว่ารอยเท้าที่ฝากไว้
ต่อมา ได้ถูกนำไปใช้สื่อความหมายถึง เขตสัญญาณการบริการ ขอบเขตของการปฏิบัติการ รวมถึงเขตที่สัญญาณ (โดยเฉพาะของทางกระแสแม่เหล็ก กระแสอิเล็กทรอนิกส์ หรือวงรัศมีของแสงที่ส่อง)ครอบคลุม อย่างอาณาเขตที่ดาวเทียมดวงหนึ่งส่งสัญญาณได้ถึง หรือบริเวณที่เสาส่งสัญญาณเสาหนึ่งส่งกระแสสัญญาณไปถึง
ต่อมาได้ถูกใช้กับวลีว่า carbon footprint โดยหมายถึงปริมาณก๊าชเรือนกระจก ที่ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด หรือกิจกรรมของมนุษย์แต่ละกิจกรรม ปล่อยออกมาสร้างผลกระทบในทางสิ่งแวดล้อมให้กับปัญหาเรือนกระจกของโลก โดยเทียบกับหน่วยปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้เข้าใจได้โดยง่าย
ตัวอย่าง:
• One skill that archaeologists and zoologists share is identifying animal footprints. (ทักษะหนึ่งที่นักโบราณคดีและนักสัตวศาสตร์มีร่วมกันก็คือการระบุรอยเท้าสัตว์ต่างๆ ว่าเป็นของสัตว์ใด)
palm print – เป็นคำนามนับได้ และพบรูปสะกดเขียนติดกันแบบ palmprints หมายถึงลายฝ่ามือทั้งฝ่ามือ ไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะนิ้วใดนิ้วหนึ่ง โดยเห็นลายเส้น รอยย่น ลักษณะพื้นผิว และตำหนิต่างๆ ที่ปรากฏบนฝ่ามือทั้งหมด ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการสืบสวนทางอาชญากรรม ที่ผู้กระทำผิดอาจทิ้งร่องรอยเอาไว้จากการหยิบจับสิ่งของต่างๆ รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวตนเหมือนลายนิ้วมือได้เช่นกัน
จุดเด่นของ palm print อย่างหนึ่งคือลายเส้นบางส่วนอาจปรับเปลี่ยนไปตามเวลาได้ ซึ่งก่อให้เกิดการนำไปใช้ในการทำนายชะตาชีวิต อย่างที่เรียกว่า การอ่านลายมือ ตรงกับคำอังกฤษว่า palm reading, palmistry หรือ chiromancy และเรียกคนที่เป็นนักทำนายลายมือว่า palmist, palm reader หรือ chirologist
ตัวอย่าง:
• The detective was skilful enough to find the palm prints left by the bank robber. (นักสืบชำนาญพอที่จะค้นพบลายฝ่ามือที่ขโมยทิ้งรอยเอาไว้)