ใครที่ผ่านการเรียนภาษาอังกฤษระดับมัธยมต้นมาจะทราบเลยว่าการโดนสั่งคัดกริยา 3 ช่องเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากกกก คัดไปด้วยคำถามต่าง ๆ นานา คัดไปคับข้องใจไป
บทความนี้จะนำผู้อ่านมาเข้าใจความสำคัญของกริยา 3 ช่อง เหตุผลที่พวกเราจะต้องท่องบ่นกันไว้ก่อน ทุกอย่างจะได้ง่ายยยยขึ้น มีอะไรบ้างมาอ่านกันเลย
1. ท่องง่ายเหมือนสูตรคูณ
“สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก….“
เคยท่องกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ หรือชั้นประถมเลยใช่ไหมครับ กับสูตรคูณทางคณิตศาสตร์
การท่องกริยา 3 ช่องนั้น ต่างจากการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษประเภทอื่นๆ ตรงที่เราสามารถท่องได้แบบเพลินๆ และจำได้ง่ายๆ ไม่มีวันลืมเลย (หลังจากที่คล่องแล้ว)
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการท่องคำศัพท์กริยา 3 ช่อง คือ มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสนุกและคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น เพราะถึงแม้มันจะไม่ได้มีเสียงคล้องจองเหมือนบทกลอน แต่มันก็มีท่วงทำนองเหมือนสูตรคูณ และนั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงจำมันได้ง่ายๆ
กริยา 3 ช่องนั้น ยังมีความเหมือนกับสูตรคูณที่สำคัญอีกประการ คือ มันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ใช้ประโยชน์ได้อย่างมหาศาลและมีการนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ แตกต่างจากการท่องศัพท์ประเภทอื่นๆ เช่น ศัพท์ TOEIC ที่คุณท่องเพียงเพื่อที่จะช่วยให้ทำข้อสอบผ่านเท่านั้นเอง แต่ไม่ค่อยมีบทบาทในชีวิตประจำวันสักเท่าไร
นอกจากนี้ การท่องกริยา 3 ช่อง ยังเป็นการเรียนรู้ความหมายของคำกริยาทั้งหลายไปในตัวด้วย
2. เพิ่มพูนทักษะทุกด้าน
การท่องกริยา 3 ช่องนั้น จะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้เสริมการเรียนรู้ทักษะทั้ง 4 ด้านของภาษาอังกฤษได้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน การอ่าน หรือการฟัง
ตัวอย่างเช่น ในการฝึกฝนทักษะด้านการอ่านภาษาอังกฤษ หากคุณไม่รู้จักคำที่เป็นกริยาที่เปลี่ยนรูปไป คุณอาจจะนึกว่า มันเป็นคำศัพท์อื่นๆ ที่คุณไม่รู้จัก และต้องเปิดหาคำแปลกันให้วุ่นวาย
3. เตรียมพร้อมในการเรียนเรื่องเทนส์
เรื่องของเทนส์ในภาษาอังกฤษทั้ง 12 เทนส์ ย่อมมีการใช้งานคู่กับคำกริยาทั้ง 3 ช่อง
ดังนั้น หากคุณไม่รู้ว่า ช่องที่ 2 และ 3 ของคำกริยาต่างๆ คือ คำใด คุณก็จะไม่สามารถพูดหรือแต่งประโยคได้อย่างสมบูรณ์
4. เป็นหัวใจสำคัญของภาษาอังกฤษ
ประมาณ 2 ใน 3 ของการพูดและเขียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน จะมีการใช้คำกริยาช่องที่ 2 และ 3 รวมอยู่ด้วย มันจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเลยทีเดียว
อย่าลืมว่า สิ่งที่ทำให้ภาษาอังกฤษแตกต่างจากภาษาไทยและภาษาอื่นๆอีกหลายภาษา เช่น ภาษาจีน ก็คือ เรื่องของกริยา 3 ช่องนั่นเอง (ภาษาไทยมีกริยาช่องเดียว)