เก่งอังกฤษจากสิ่งรอบตัว

1821

 ทุกคนเรียนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ตั้งแต่ประถมรึเปล่า หรือตั้งแต่อนุบาล เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ยังเรียน แต่แปลกไหมที่เรียนภาษาอังกฤษมาทั้งชีวิตกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย แต่ไม่ต้องกดดันตัวเองไปค่ะ วันนี้ทาง Engnow มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ อยากแบ่งปันให้ทุกคนนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดดกันไปเลย นั่นก็คือการเรียนภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบตัวนั่นเองค่ะ

read everything in English around you

  เริ่มต้นที่ read everything in English around you คืออ่านอะไรก็ได้ที่อยู่รอบตัวเราที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ทุกคนลองสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวว่ามีอะไรบ้างที่มีภาษาอังกฤษปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูนหรือนิยายที่เราชอบ เป็นข่าวที่เราเลื่อนเจอใน Facebook เป็นป้ายตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นคำสั้น ๆ ในเกมที่เราเล่น หรือแม้แต่ฉลากบนห่อขนมก็ใช้ได้เหมือนกัน ขอแค่เป็นภาษาอังกฤษก็พอ เมื่อเราสังเกตดูดี ๆ แล้วจะพบว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวพวกเราก็มีภาษาอังกฤษปนอยู่ไม่น้อยเลยนะเนี่ยถ้าเห็นคำไหนไม่คุ้นหรือว่ายากเกินไปก็ไม่ต้องเสียใจหรือคิดว่าเราไม่เก่งนะคะเพราะทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา

.

list the unknown words

ขั้นตอนถัดมาคือ list the unknown words คือให้ลิสต์คำศัพท์ที่เราไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก ไม่รู้ความหมาย หรืออาจจะรู้จักแต่จำความหมายไม่ได้ลงบนสมุดพกเล่มเล็ก ๆ หรือบนโน้ตในมือถือก็ได้ จากนั้นให้เอาคำคำนี้ไปสืบค้นหาความหมายจากเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอังกฤษหรือเว็บไซต์ภาษาไทยแล้วลองทำความเข้าใจกับมันดู แล้วลองหาประโยคที่มีคำพวกนี้มาอ่านอีกรอบเพื่อที่เราจะสามารถเช็คได้ว่าเราเข้าใจความหมายของคำคำนี้ได้ถูกต้องรึเปล่า


อ่านกันไปแล้ว ทีนี้มาลองฟังกันค่ะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบดูหนังฟังเพลงกัน ซึ่งเพลงหรือหนังที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยที่ดีมากในภารพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพราะโดยส่วนมากแล้วทั้งเพลงและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนัง จะมีการออกเสียงอย่างถูกต้องตามหลักและตามบริบทสังคมในยุคนั้น ๆ ทั้งยังนำเสนอให้เห็นว่าภาษาอังกฤษถูกใช้อย่างไรในชีวิตจริง ทำให้คนที่ฟังคุ้นชินกับลักษณะภาษาและการออกเสียง จากนั้นก็สามารถฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากขึ้นในที่สุดนั่นเอง ส่วนใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มที่หนังเรื่องอะไรหรือเพลงแบบไหนให้ลองค้นหาไปเรื่อย ๆจนกว่าจะเจอเพลงแบบที่ใช่และหนังแบบที่ชอบ พอเจอแล้วก็ลุยเลยค่า 

            แรก ๆ อาจจะยังฟังแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ก็อย่าเพิ่งท้อไปค่ะ แนะนำว่าให้เปิด lyrics ของเพลงหรือ subtitles ของหนังควบคู่ไปด้วยจะได้รู้ว่าคำคำนี้หน้าตาแบบนี้นะ ออกเสียงแบบนี้นะ ถ้าเจอคำไม่รู้จักก็เหมือนเดิมเลยค่า จดลงบนสมุดพกหรือโน้ตแล้วค่อยเอาคำคำนั้นไปหาความหมาย แล้วลองแทนในประโยคอีกทีว่าถ้าใช้แบบนี้ความหมายของคำคำนั้นมัน make sense รึเปล่า ทำแบบนี้แล้วได้เพิ่มคำในคลังอีกเป็นกองเลยค่ะ

            มากไปกว่าเรื่องของคำศัพท์ ทั้งการอ่านและการฟังสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเราจะทำให้เราเห็นว่าหลักไวยากรณ์ต่าง ๆ ที่เราได้เรียนมานั้น native speakers หรือเจ้าของภาษานำมันไปใช้ในสถานการณ์แบบไหนและอย่างไร ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพสถานการณ์และเข้าใจหลักการใช้ไวยากรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

เช่น ในทีแรกเราอาจจะไม่เข้าใจว่า Present perfect continuous tense ใช้อย่างไร พอเราไปเจอในหนังที่มีตัวละครตัวหนึ่งนอนหลับตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็นแล้วมีตัวละครอีกตัวพูดถึงตัวละครตัวนั้นว่า She has been sleeping since noon. (เธอนอนมาตั้งแต่บ่าย) เราก็จะเข้าใจได้ว่า อ๋อ Present perfect continuous tense ใช้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วดำเนินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ตอนที่พูดก็กำลังเกิดขึ้นอยู่)

แม้เทคนิคนี้จะช่วยให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่แน่นอนว่ามันไม่สามาถทำให้ทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นได้ในวันเดียว แต่ต้องอาศัยเวลาค่อย ๆ ฝึกฝนและขัดเกลาไปเรื่อย ๆ ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล และถึงแม้เราจะเก่งแล้วก็ขอให้เรียนรู้ต่อไปเพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

Share
.