หลายๆคนคงรู้จักคำว่า ‘but’ ในความหมายว่า ‘แต่’ ซึ่งเอาไว้ทำหน้าที่คำเชื่อมประโยคที่มีความหมายในเชิงขัดแย้งกัน แต่จะใช้แค่คำว่า but บางทีก็อาจดูไม่คูล อีกอย่างชาวต่างชาติเขาไม่ไดใช้เพียงแค่คำนี้ตลอดนะ
วันนี้แอดมินจัดให้! กับบทความนี้เลย
ก่อนอื่นเรามารู้จักคำว่า but กันก่อน
1.But มีความหมายว่า “แต่”
เป็นคำที่ใช้เชื่อมประโยค วลี หรือคำที่มีใจความขัดแย้งกัน หรือแตกต่างกัน
ตัวอย่างประโยค
I love you, but you don’t love me. – ฉันรักคุณ แต่ คุณไม่ได้รักฉัน
He is very handsome but not very kind. – เขาหล่อมาก แต่ว่า เขาไม่ใจดีเลย
2.But แปลว่า “ยกเว้น”
ซึ่งโดยปกติเรามักจะเจอ but ตามหลังด้วยคำเหล่านี้ : all, everything, everyone, everybody, nothing, no one และ nobody
ตัวอย่างประโยค
Nobody but me can eat spicy foods. – นอกจากฉันแล้ว ไม่มีใครเลยที่ทานอาหารรสเผ็ดได้
Everyone but you likes to play football. – ทุกคนยกเว้นคุณ ชอบเล่นฟุตบอลหมดเลย
3.All but แปลว่า “เกือบจะ”
คำนี้ถือเป็น สำนวน(idiom) แปลว่า almost completely หรือ nearly (เกือบจะ,ใกล้จะ) และด้วยความเป็นสำนวน จึงทำให้ความหมายแตกต่างออกไปจากเดิมค่อนข้างมาก
สังเกตว่า ถ้าอ่านแล้วแปลตรงตัว คือจะสื่อความหมายผิดทันที ดังนั้น มารู้จักคำนี้กันครับ
ตัวอย่างประโยค
The horse was all but killed by a hunter. – ม้าเกือบจะโดนนายพรานฆ่าตายแล้ว
Our project has all but completed. – โครงการของเราเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
สังเกตว่า คำว่า all but สามารถใช้ได้กับทุก Tense เลยนะครับ แต่อย่าลืมเรี่องกฏของแต่ละ Tense ด้วยนะครับ
อีกหนึ่งประเด็นคือ มันต้องเขียนเป็น but หรือ ,but แบบมีคอมม่ากันแน่ วันนี้แอดมินมีคำตอบให้หายข้องใจกันครับ
•ใช้ but เมื่อมีหนึ่งประโยค เป็น ประโยคที่ไม่มีใจความสมบูรณ์(dependent clause)
She is so beautiful but stingy. – หล่อนสวยนะแต่ขี้เหนียว
จะเห็นว่า She is so beautiful เป็นประโยคเต็ม แต่ประโยคที่มาเชื่อม มีแค่ stingy ตัวเดียวเลย แบบนี้ถือว่าเป็น ประโยคที่ไม่มีใจความสมบูรณ์(dependent clause) กรณีนี้ เราจึงใช้แค่ but อย่างเดียว ไม่ต้องมีคอมม่านะครับ ☺
เมื่อเรารู้แล้ว ว่าคำว่า But ใช้อย่างไร และสื่อความหมายแบบใดได้บ้าง แอดมินจึงหยิบ 11 คำ ที่สามารถใช้แทน but ได้เลย มาดูกันเลยครับ
Although
คำนี้แปลว่า “แม้ว่า” ซึ่งจะมีความหมายแสดงให้รู้สึกถึงความขัดแย้งกันของทั้งสองประโยค เลยไม่จำเป็นต้องใส่ but(แต่) อีกจึงทำให้ในกรณีนี้ เราสามารถละคำว่า but ทิ้งไปได้เลย
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
Although she is very poor, she has not lost her dignity.
– ถึงแม้หล่อนจะยากจนอย่างมาก แต่หล่อนก็ไม่เคยยอมเสียศักดิ์ศรี
Though
คำนี้แปลว่า “แต่” ได้ด้วย
จริงๆเจอคำว่า Although ก็ต้องรู้จักกับคำว่า Though ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นคำเชื่อม ใช้เชื่อมข้อคิดเห็นหรือข้อเท็จจริงที่มีใจความขัดกัน หรือไม่สอดคล้องกัน แปลว่า “แม้ว่า” แต่ในบางบริบท สามารถใช้แทนความหมายว่า “แต่” ได้อีกด้วย
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
Her birthday is in February, though I don’t know the date.
– วันเกิดหล่อนอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์นะ แต่ฉันไม่รู้วันที่น่ะ
I think he likes this one. I am not sure though.(วางไว้ท้ายสุดของประโยคก็ได้นะ)
– ฉันคิดว่าเขาชอบอันนี้นะ แต่ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน
Except
คำนี้แปลว่า “ยกเว้น”
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
All of us speak English except her.
– เราทุกคนพูดภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นหล่อนคนนั้น
Nevertheless
คำนี้แปลว่า “ถึงอย่างนั้น / อย่างไรก็ตาม”
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
Many startups fail. Nevertheless people continue to start new businesses.
– มีธุรกิจสตาร์ทอัพหลายแห่งล้มเหลว แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คนก็ยังเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ
On the other hand
คำนี้แปลว่า “ในทางกลับกัน / ในอีกด้านหนึ่ง” คำนี้เป็นการใช้เพื่อแสดงความขัดแย้งในด้านความหมาย ระหว่างประโยคที่พูดไปก่อนหน้า และประโยคที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ (คำนี้ใช้ค่อนข้างบ่อย)
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
Mr. John loves English. On the other hand, he hates math.
– คุณจอห์นรักภาษาอังกฤษ แต่ทางกลับกัน เขาเกลียดคณิตศาสตร์
Your computer is very fast. On the other hand, mine is quite slow.
– คอมพิวเตอร์ของคุณเร็วมากเลย กลับกัน คอมพิวเตอร์ของผมนี่ค่อนข้างช้า
Still
คำนี้แปลว่า “ถึงอย่างนั้น / ก็ยัง”
แปลกใจไหมครับ ปกติเราจะรู้ว่า still แปลว่า “ยังคง” แต่เมื่ออยู่ในบางบริบท สามารถใช้เพื่อสื่อความหมายว่า “ถึงอย่างนั้น / ก็ยัง” ได้อีกด้วย
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
My job is very challenging. Still, I am lucky that I have a good support from my family.
– อาชีพของฉันที่ทำอยู่ มันท้าทายมากเลย แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังโชคดีที่การสนับสนุนที่ดีจากครอบครัว
I have told you about it twice. Still, you do not seem to completely understand it.
– ฉันบอกเรื่องนี้กับคุณไปสองรอบแล้วนะ แต่คุณก็ยังดูไม่เข้าใจมันจริงๆ
Yet
คำนี้แปลว่า “แต่” ได้ด้วย ในความหมายนี้จะเหมือนกับคำว่า but แปลว่า “แต่” หรือ “ถึงอย่างนั้น” ทำหน้าที่เชื่อมประโยคที่มีใจความขัดกัน
ไม่ได้มีความหมายว่า “ยัง” อย่างเดียวนะครับ
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
I don’t like seafood, yet I have to eat them today at this restaurant.
– ฉันไม่ชอบอาหารทะเล แต่วันนี้ฉันต้องกินที่ภัตตาคารแห่งนี้
I am not student anymore, yet I still study almost every day.
– ฉันไม่ใช่นักเรียนแล้ว แต่ฉันยังคงต้องเรียนอยู่แทบทุกวัน
In contrast
คำนี้แปลว่า “ช่างตรงข้ามกับ” คำนี้ใช้ง่ายๆ ความหมายตรงตัวครับ กับคำว่า “Contrast” ที่แปลว่า ย้อนแย้ง / ขัดแย้ง / ตรงข้าม
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
His cat is very cute in contrast with mine.
– แมวของเขาน่ารักเหลือเกิน ช่างตรงข้ามกับแมวของฉัน ฮืออ
He looked quite happy in contrast with those around him.
– เขาดูเหมือนจะมีความสุขนะ ช่างแตกต่างกับคนอื่นรอบๆตัวเขาเลย
On the contrary
คำนี้แปลว่า “ในทางตรงกันข้าม” คำว่า contrary แปลว่า “ความขัดกัน/ความตรงกันข้าม” มีวิธีใช้ดังนี้เลยครับ
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
You are young. I, on the contrary, I am very old.
– คุณดูยังวัยละอ่อนอยู่เลย แต่ในทางตรงกันข้าม ผมสิแก่มากแล้ว
Just because I’m alone doesn’t mean I’m lonely. On the contrary, I enjoy being by myself.
– แค่ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าฉันเหงานะจ๊ะ ในทางกลับกัน ฉันมีความสุขกับการเป็นตัวเองมากเลยค่ะ
Whereas
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
คำนี้แปลว่า “ในทางตรงกันข้าม / ในขณะที่”
I am tall, whereas my siblings are short.
– ฉันตัวสูง ในขณะที่พี่น้องฉันตัวเตี้ยหมดเลย
A triangle has three sides, whereas a square has four.
– สามเหลี่ยมมีสามด้าน ในขณะที่สี่เหลี่ยมมีสี่ด้าน
However
คำนี้แปลว่า “แต่อย่างไรก็ตาม / แต่ถึงกระนั้น”
ตัวอย่างการใช้ในประโยค
I like the dress; however, it’s available in just one color.
– ฉันชอบเสื้อเดรสนะ แต่ถึงกระนั้น มันมีให้เลือกแค่สีเดียวเอง
The car was quite old and outdated. However, it managed to take us home safely.
– รถคันนี้ค่อนข้างเก่าและตกรุ่นไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มันสามารถพาเรากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยก็แล้วกัน
เขียนโดย Chainarong K.
ชัยณรงค์ คงสนทนา