ถ้าจะให้นึกถึงประโยคปฏิเสธในภาษาไทย เพื่อนๆ ชาว Engnow จะนึกถึงประโยคไหนกันคะ? แอดคงนึกถึง ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่รู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ Oops! 0.0 ไม่รู้เก่ง ไม่รู้วันๆ ทำงาน หรือหลับ สำหรับแอด อย่าให้พูดเลย… หลับแน่นอนค่ะ! ฮ่าๆ อย่างไรก็ตาม วันนี้แอดเลยรวบรวม ประโยคบอกปฏิเสธในภาษาอังกฤษมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ในบริบทที่หลากหลายมาก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
บอกปฏิเสธแบบไม่เป็นทางการ เอาไว้พูดกับเพื่อน คนสนิท ใช้แค่นี้ก็พอ …
- Nope. “ ไม่ ”
- Nah. เป็นแสลงสำหรับคำว่า no
- Absolutely not! “ ไม่ อย่างแน่นอน! ”
- What? Hell no! “ อะไรนะ? ไม่ แน่นอน! ” เติม hell เพิ่มความซีเรียส อารมณ์โกรธ
- No way! “ ไม่มีทาง! ”
- Not in a million years! “ เป็นไปไม่ได้ ”
- Forget it! “ ไม่มีทาง ลืมมันไปซะเถอะ! ”
บอกปฏิเสธแบบกลางๆ ใช้ได้ทั่วไปกับทุกคน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม(หู) สามารถพูดได้ว่า…
- Certainly not “ ไม่ แน่นอน! ”
- You must be joking. “ คุณต้องล้อเล่นแน่! มันไม่ใช่! ”
- It’s not really my thing. เมื่อมีคนมาเสนอให้คุณทำในสิ่งที่ไม่ชอบ สามารถใช้ประโยคนี้ มีความหมายว่า
“ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบ/ สนุกที่ได้ทำมันค่ะ ” ขอไม่ทำนะคะ
- I’d rather not. “ ไม่ดีกว่าค่ะ ”
- I’m afraid not. “ ฉันเกรงว่าไม่ ”
บอกปฏิเสธแบบเป็นทางการ
ซึ่งต้องบอกก่อนว่า มีหลายวิธีมากในการปฏิเสธแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพูดตรงๆ แบบสุภาพ หรือให้เหตุผลว่าทำไมเราถึงปฏิเสธ สามารถใช้…
Not to my knowledge.
วลีนี้ใช้ในบริบทที่เป็นทางการมากๆได้ เพราะเป็นการปฏิเสธแบบสุภาพมากๆ อาจใช้พูดกับลูกค้า หรือบุคคลที่เราไม่รู้จัก เวลามีใครมาร้องขอสิ่งใด มีความหมายว่า “ ฉันไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ ” มันนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้มาของฉัน
I’m sorry I can’t make it.
“ ฉันขอโทษ ฉันไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ เป็นการปฏิเสธ อาจใช้เวลาที่เราได้นัดหมายกับใครไว้ เช่น นัดประชุม นัดไปเที่ยวกับเพื่อน แต่เราไม่สามารถไปได้แล้ว
I’m afraid that I can’t, I…
ประโยคนี้ สามารถแปลได้ว่า “ ฉันเกรงว่าจะไม่สามารถ ฉัน… ” โดยประโยคด้านหลังสามารถเติมเหตุผลว่าทำไมเราไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ เช่น
- I’m afraid that I can’t, I have got another meeting at that time you mentioned.
I’d help you if I could, but I’m not able to.
“ ฉันจะช่วยคุณนะถ้าทำได้ แต่ฉันไม่สามารถ ” ซึ่งนั้นก็อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีแพลนอื่น หรือสิ่งอื่นที่ต้องทำอยู่จึงไม่ว่างช่วยนั่นเอง
I’m really sorry, but I have to say no.
“ ฉันขอโทษจริงๆ แต่คงต้องขอปฏิเสธ ” ยังไงก็ขอโทษเอาไว้ก่อนเพื่อนแสดงให้เห็นถึงความสุภาพ แต่ก็คงไม่สะดวกน้าาา
I’ve got too much on my plate.
เป็นวลีที่ไม่ใช่มีอะไรเยอะเกินบนจาน แต่มีความหมายว่า “ยุ่งมากๆ มีงานมากที่จะต้องสะสาง” ไม่ได้บอกตรงๆ แต่ก็สามารถใช้บอกปฏิเสธได้เช่นกัน
I wish I could, but I …
ประโยคนี้ก็เป็นการปฏิเสธแบบอ้อมๆ และสุภาพ ให้ความหมายว่า “ ฉันหวังว่าจะสามารถทำได้ แต่ … ” ใส่เหตุผลไปด้านหลังแต่ได้เลย
I’m not available at that time.
แทนที่จะบอกปฏิเสธไปตรงๆ แต่เราบอกไปแทนว่า “ ฉันไม่ว่างในเวลานั้น ” ซึ่งหากเราอยากช่วยหรือทำสิ่งที่เขาขอมานั้น หลังจากบอกไม่ว่าง เราอาจเสนอเวลาใหม่ที่เราสะดวก ว่างที่จะช่วยให้เขาก็ได้
I really appreciate the invite, but…
“ ฉันรู้สึกยินดีกับคำเชิญมากเลยนะ แต่… ” ก็เป็นการปฏิเสธอย่างสุภาพเช่นกัน อารมณ์เกริ่นสิ่งดีๆก่อน แล้วจึงบอกสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ไป จะแสดงให้เห็นว่าเรารู้สึกเสียดายที่จะต้องปฏิเสธโอกาสนั้น
และทั้งหมดนั่นก็เป็นวิธีการบอกปฏิเสธ ที่เพื่อนๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการพูดได้แทบทุกเรื่องเลยนะคะ ยังไงก็อย่าลืมดูบริบท และบุคคลที่เรากำลังพูดอยู่ด้วย จะได้เลือกใช้กันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมที่สุด วันนี้แอดลาไปก่อน See ya!