1.จุดประสงค์ของการเรียนคืออะไร
อันดับแรก เราต้องรู้ตัวของเราก่อนว่า เราจะเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร ??
เพื่อประกอบอาชีพ เพื่อพัฒนาตัวเอง
เพื่อสอบ หรือแม้กระทั่งเพื่อความสนุก
เพราะถ้าเราไม่มีจุดหมายปลายทาง เราจะไม่ให้ความสำคัญกับระหว่างทางที่จะไป สุดท้ายเราก็จะยอมแพ้ ล้มเลิกความตั้งใจไปในที่สุดค่ะ เพราะฉะนั้นอย่างแรกเลย เราต้องถามตัวเองก่อนว่า
“เราเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไรกันแน่ ?? ถ้าได้คำตอบกับตัวเองแล้วละก็
เราจะมีเป้าหมายในการเรียนค่ะ และแรงฮึดมันก็จะตามมาเอง”
.
2.พื้นฐานภาษาของตัวเองมีเท่าไหร่ เราต้องเพิ่มที่จุดไหน?
สำคัญไม่แพ้กัน เราต้องประเมินพื้นฐานเดิมของตัวเองก่อนว่า เรามีพื้นฐานมากน้อยแค่ไหน? เพื่อที่จะได้ไปเรียนเพิ่มเติมแบบถูกจุด และไม่เสียเปล่า
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น
“ถ้าเราไม่รู้ตัวว่าอ่อนแกรมม่าแต่ไปเรียนสนทนา ก็เสียเปล่า ถูกไหม?” 🥺
ถ้าไม่รู้จริงๆว่าจะวัดยังไง ลองหาแบบฝึกหัดทำ หรือเข้าเว็บเพื่อวัดระดับภาษา อย่างเช่นที่ engnow.in.th ก็ช่วยได้เหมือนกันนะ
.
3.รู้วิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเอง
ข้อนี้ค่อนข้างที่จะยากหน่อย ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าเราจะรู้ตัวว่า
วิธีเรียนแบบไหนที่จะเหมาะกับเรามากที่สุด
งั้นเราลองสังเกตตัวเองดูก่อนก็ได้เช่น
เวลาอ่านหนังสือ เราจะชอบหนังสือที่มีภาพประกอบเยอะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองจำได้
หรือ กลางวันหัวไม่แล่นเรียนตอนกลางคืนหัวจะแล่นกว่า
แต่ทั้งนี้ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าต้องหาแนวทางวิธีการเรียน ก็รีบค้นหาตัวเองให้เจอเลย ก่อนที่จะนานไปกว่านี้น้า
.
4.ตั้งงบในการเรียนคร่าวๆ
ทุกอย่างมันต้องมีการลงทุน ขึ้นอยู่กับเราว่า เราจะหากำไรจากสิ่งนั้นได้เท่าไหร่
การศึกษาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องลงทุนไปกับมัน ถ้าไม่อยากให้งบบานปลาย
เราลองวางแผนคร่าวๆให้กับตัวเองไว้ก่อนว่าจะเรียนอะไรบ้าง
จัดอันดับความสำคัญเอาไว้ แล้วก็มานั่งคำนวณดูอีกทีเป็นดีที่สุด
หรือลองหาคอร์สที่ราคาไม่ต้องสูงลิ้ว แบบไม่เจ็บมาก ก็ช่วยในเรื่องการตั้งงบได้เหมือนกัน
.
5.ให้เวลาตัวเองเท่าไหร่
สำคัญมากๆสำหรับข้อนี้ การตั้งเวลาให้กับตัวเองจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรา
บรรลุเป้าหมายได้ง่ายที่สุด
เช่น เราอยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่เราอยากจะเก่งภายในเมื่อไหร่ละ?
กำหนดไว้ในแพลนเลย เช่น ภายใน3 เดือน หนึ่งปี ตัวเวลานี้แหละที่จะทำให้เรากระเตื้อง แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป รู้จักให้รางวัลตัวเองบ้าง จะได้ไม่หมดกำลังใจไปสะก่อน
มันอาจจะกดดันเราไปบ้าง แต่สุดท้ายมันก็จะให้ผลตอบรับที่คุ้มค่าคืนกลับมาให้เรา
บางคนสะดวกที่จะเรียนเรื่อยๆเก็บเกี่ยวระยะยาว ก็ไม่ผิดนะ มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายของตัวเราเองนั้นแหละ
