เป็นเด็กเมกา 1 วัน กับคำแสลงที่ฮิตสุดในตอนนี้

16890


อยากเป็นวัยรุ่นเมกาต้องสักวันนึงโดยการพูดคำศัพท์แสลงภาษาอังกฤษสไตล์เมกัน ชิคๆ คูลๆ ฟังดูเเล้วเเบบเฮ้ยยยยยยย แวอาร์ยูฟร๊อม? ยูมาจากเมกาอะป่าวไรงี้555 เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ บทความในวันี้ก็จะรวมศัพท์แสลงเก๋ๆที่เค้าใช้กันบ่อย มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง


1. “Let’s get after it!”

.

คำแรกมาก็อึ้งกันเลยใช่ไหม คงอึ้งว่าแบบมันเป็นคำสแลงได้ยังไง 5555 จริงๆแล้วคำนี้เอาไว้ใช้กับสถานการณ์ตอนที่มีใครคนใดคนนึงกำลังโฟกัสอะไรกับบางอย่างมากๆ ตัวอย่างเช่น เพื่อนของเราบอกว่า

  • I wants to learn English.
    ฉันอยากเรียนภาษาอังกฤษ เราเลยตอบกลับไปว่า
    “Ok, let’s get after it!”
    ซึ่งถ้าแปลมันก็จะแปลได้ประมาณว่า “ก็เอาเลยสิ, ลุยเลยสิ, ลุยเลยสิวะ


2. “a real one” 

คำว่า “real” มันแปลว่าจริง หรือของจริงของแท้ ซึ่งถ้าเป็นสแลงเนี่ยเราจะเอาไว้อธิบายคน ว่าคนคนนั้นน่ะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ หรือ loyal นั่นเอง ตัวอย่างเช่น 

  • My friend Harry is a real one!
    แฮร์รี่เพื่อนฉันน่ะ เขาเป็นคนดีนะ (ซื่อสัตย์)


3. “savage” (noun)

จะบอกว่าเราสามารถเห็นคำนี้ได้บ่อยมากๆ ซึ่งจริงๆแล้วคำนี้เป็นคำนาม เอาไว้อธิบายถึงบุคคลที่เก่งหรือมีบุคลิกที่ดีงาม เป็นคนเจ๋ง เป็นคนคูล ซึ่งเขามักจะใช้เพื่ออ้างอิงถึงความสามารถหรือทักษะของใครบางคน

  • John is a savage at football.
    จอห์นเก่งฟุตบอลมากๆ
  • Jill is a savage at drawing.
    จิลวาดรูปโหดมากๆ (สวยมาก เก่งมาก)


4. “Dead”

งงล่ะสิ มันจะมาเป็นแสลงได้ยังไง 55555 ซึ่งคำว่า “dead” แปลว่า ตายหรือเสียชีวิตในภาษาไทย แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นสแลง เอาไว้พูดตอนที่เราต้องการจะสื่อถึงบางสิ่งบางอย่างที่มันตลกมากๆ อย่างเช่นถ้ามีเพื่อนมาเล่ามุขตลกให้เราฟัง แล้วเราขำมากๆ เราสามารถพูดได้ว่า

  • “I’m dead”
    (แบบขำจนตายไปเลย ขำมาก ขำไม่ไหว)


5. “trippin”

คำนี้เอาไว้อธิบายคน ที่มีลักษณะกริยาท่าทาง crazy or foolish ก็คือบ้าๆบอๆ ดูเงอะงะ อย่างไรก็ตามคำนี้เอาไว้พูดถึงคนที่เสพสารเสพติดได้ด้วย ซึ่งมันจะหมายถึงคนที่สติหลุด ไม่มีสติ ต่อเนื่องจากการเสพสารเสพติด ตัวอย่างของประโยคที่มีความหมายบ้าๆบอๆ อย่างเช่น 

  • Jasper said he saw a flying pig…he’s trippin’!
    เเจสเปอร์บอกว่าเขาเห็นหมูบินได้ เขานี่บ้าไปแล้วจริงๆ 


6. “Whip”

คำนี้เป็นคำสแลงของคำว่า “car” ก็คือเราจะเอาไว้ใช้เรียกแทนรถนั่นเอง ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเพิ่งซื้อรถมาใหม่ คุณสามารถพูดได้ว่า

  • “I just got a new whip”!


7. “Chill”

คำนี้ง่ายมาก  และเรามักจะได้ยินบ่อยมากๆเช่นกัน โดยส่วนคำว่า “chill” ปกติมันเป็นคำกริยา ซึ่งหมายถึง การใช้เวลาร่วมกัน ทั้งนี้ในคำสแลง สามารถเอาไปใช้กับคนอื่นได้เหมือนกัน เอาไว้อธิบายว่าคนคนนั้น เป็นคน relax ไม่เครียด friendly ตัวอย่างเช่น

  • Paul is so chill.
    พอลชิลมากเลย ในที่นี้ก็คือ เป็นคนสบายๆไม่ยุ่งยาก อยู่ด้วยแล้วไม่เครียด เป็นคนอารมณ์ดีอะไรประมาณนี้ 


8. “Bands”

คำนี้มีที่มาที่ไปอยู่นะ เนื่องจาก “bands” มักจะเป็นที่รู้จักกันว่ามันคือตัวอย่างที่เอาไว้มัดก้อนเงิน เวลาที่เราไปถอนเงินออกมาจากธนาคารเป็นก้อนๆเนี่ย เขาก็จะมี “band” ที่เป็นเส้นๆรัดมาให้ ดังนั้นแล้วถ้าเราพูดถึงคำนี้  ในภาษาแสลงก็จะหมายถึง เงิน เหรียญเงินที่เป็นก้อนๆ เป็นปึกนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วเราจะเจอคันนี้ในเพลง rap/hip-hop ตัวอย่างประโยคอย่างเช่น

  • “I’ve got 100 bands in the back of this car.”
    ฉันมีเงินประมาณ 100 ก้อน อยู่หลังรถ


9. “Loaded”

เมื่อพูดถึงเงิน9.อมั่งคั่ง มั่งมี เป็นคนรวยอะไรประมาณนี้ ส่วนใหญ่แล้วเขาจะไม่ได้ใช้คำนี้กับคนดังสักเท่าไหร่ แต่จะเอาไว้ใช้พูดถึงคนทั่วไปมากกว่า อย่างเช่น 

  • I would call my friend’s family loaded if they had a giant house and took 1st class flights around the world.
    ฉันจะเรียกครอบครัวของเพื่อนฉันว่า loaded(พวกคนรวย555) ถ้าพวกเขามีบ้านหลังใหญ่ๆ หรือมักจะใช้ตั๋ว first class ขึ้นเครื่องบินตลอดว่าจะไปบินที่ไหน


10. “a ghost” 

เเน่ล่ะคำนี้จริงๆแล้วมันแปลว่า “ผี หรือ วิญญาณ” แต่ในภาษาสแลงนั้นก็มีความหมายคล้ายๆกันอยู่นะ คือเราเอาไว้อธิบายคนที่มักจะชอบหายตัวไปเฉยๆ หรืออยู่ๆก็เงียบไปเลยอะไรแบบนี้ เป็นการเปรียบเปรยที่ว่าเหมือนผีที่ไร้ร่องรอย ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ 555 ช่างเปรียบเทียบเหลือเกิน

  • I was supposed to play basketball a few days ago, but my friend ghosted me, and didn’t reply until AFTER I got home!
    เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันควรที่จะไปเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อน แต่เพื่อนของฉันอยู่ๆก็ ghosted me (หายไปเลย ไร้ร่องรอยเหมือนผี555) แล้วก็ไม่ตอบข้อความฉัน จนกระทั่งฉันถึงบ้านแล้วถึงจะตอบ


11. “a glow-up”

ในภาษาสแลง เราจะเอาไว้กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น อย่างเช่น 

  • “Do you remember Lenny? He had a crazy glow-up.”
    เธอยังจำเลนนี่ได้ไหม เขาหล่อขึ้นเยอะมากๆเลย


12. “Cap” 

คำนี้ไม่ได้แปลว่าหมวกแต่อย่างใด ในภาษาแสดงคำนี้มีความหมายที่ว่า Cap = to lie นั่นก็คือการโกหกนั่นเอง ถ้ามีใครคนใดคนนึงกำลังโกหกเราอยู่ แล้วเราจับได้ว่าเขาโกหก เราสามารถบอกได้ว่า 

  • “They are cappin”.
    พวกเขากำลังโกหก
  • “Freddy stop cappin”.
    เฟรดดี้ หยุดโกหกเลยนะ
Share
.