วลีที่ชอบเจอในสนามสอบ

4009


ในข้อสอบภาษาอังกฤษ เรามักจะเจอวลีในชีวิตประจำวันทั่วไปค่อนข้างเยอะกว่าปกติ ซึ่งในบทความนี้เราจะแบ่งย่อยเป็นสถานการณ์  ในแต่ละสถานการณ์ก็จะมีวลีที่แตกต่างกันออกไป เพราะงั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า


สถานการณ์แรกคือการทักทาย

.
  • What’s up?
    ว่าไง, เป็นไงบ้าง
  • What’s new?
    มีอะไรอัพเดทเปล่า
  • What have you been up to lately?
    ช่วงหลังนี้เธอไปทำอะไรมา
  • How’s it going?
    เป็นไงบ้าง
  • How are things?
    สบายดีไหม
  • How’s life?
    ชีวิตเป็นไงบ้างช่วงนี้ 


สถานการณ์ต่อมาคือสถานการณ์ที่เอาไว้บอกสถานะของเรา เอาไว้ใช้
ตอบกับคำถามข้างบน

  • I’m fine, thanks. How about you?
    ฉันสบายดีแล้วคุณล่ะ 
  • Pretty good.
    ก็สบายดีนะ 
  • Same as always
    ก็เหมือนเดิมแหละ
  • Not so great.
    ก็ไม่ได้พิเศษอะไร 
  • Could be better
    มันน่าจะดีได้กว่านี้แหละ
  • can’t complain
    ฉันบ่นไม่ได้อ่ะ


วลีที่เอาไว้พูดแทนคำว่า thank you

  • I really appreciate it.
    ฉันซาบซึ้งมากๆนะ 
  • I’m really grateful
    ฉันซึ้งใจมาก 
  • That’s so kind of you.
    คุณช่างใจดีอะไรขนาดนี้
  • I owe you one. (this means you want/need to do a favor for the other person in the future)
    ฉันเป็นหนี้บุญคุณคุณแล้วนะ


วลีที่เอาไว้ตอบถ้ามีคนขอบคุณ Thank You เรา 

  • No problem.
    ไม่มีปัญหา 
  • No worries
    ไม่ต้องห่วง
  • Don’t mention it.
    เอาน่าไม่ต้องพูดถึงมันหรอก 
  • My pleasure.
    ด้วยความยินดี 
  • Anytime.
    ได้ตลอดแหละ 


วลีทั่วไปที่เอาไว้จบบทสนทนาหรือเอาไว้ปิดบทสนทนานั่นเอง

  • It was nice chatting with you.
    มันเป็นอะไรที่ดีงามมากเลยที่ได้คุยกับคุณ 
  • Anyway, I should get going.
    ยังไงก็เถอะฉันควรต้องไปแล้ว


วลีที่เอาไว้ถามข้อมูลทั่วไป:

  • Do you have any idea…?
    คุณมีความคิดเห็นอย่างไร
  • Would you happen to know…?
    คุณพอจะรู้ไหมว่า….


วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่เราไม่รู้เกี่ยวกับอะไรบางอย่าง:

  • I have no idea/clue.
    ฉันไม่รู้เลย
  • I can’t help you there.
    ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ (เพราะไม่รู้)
  • I’m not really sure.
    ฉันไม่ค่อยมั่นใจจริงๆ
  • I’ve been wondering that, too.
    ฉันก็สงสัยมันเหมือนกัน


วลีที่เอาไว้ใช่ตอนที่เราเห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง:

  • Exactly.
    ใช่เลย
  • Absolutely.
    อย่างเเน่นอนเลย
  • That’s so true.
    จริงทีสุดเลย
  • That’s for sure.
    อย่างเเน่นอนเลย
  • I agree 100%
    ฉันเห็นด้วย 100%
  • I couldn’t agree with you more.
    ฉันเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ


วลีที่เอาไว้ใช่ตอนที่เราไม่เห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง:

  • I’m not so sure about that.
    ฉันไม่ค่อยเเน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย
  • That’s not how I see it.
    มันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลยอะ
  • Not necessarily
    ฉันว่ามันไม่จำเป็นนะ


วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่ได้ยินข่าวดี:

  • That’s great!
    เยี่ยมเลย
  • How wonderful!
    สุดยอดมาก
  • Awesome!
    เยี่ยมมาก


วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่ได้ยินข่าวร้าย:

  • Oh no…
    ไม่นะ
  • That’s terrible.
    นั่นมันเเย่มากนะ
  • Poor you.
    คุณช่างน่าสงสารจัง
  • I’m so sorry to hear that.
    ฉันขอโทษที่ได้ยินแบบนั้นนะ


วลีทั่วไปที่เอาไว้ใช้เชิญ:

  • Are you free…
    คุณพอจะว่างช่วง…ไหม
  • Are you doing anything… [Saturday night? ในวันเสาร์กลางคืน]
    คุณทำอะไรไหมวัน…นี้
  • (ไม่ทางการ) Do you wanna… [see a movie ดูหนังกันไหม?]
    คุณอยากจะ…..
  • (ทางการ)Would you like to… [join me for dinner? มาร่วมทานอาหารเย็นกันไหม]
    คุณอยากจะ…..


วลีที่เอาไว้ใช้เกี่ยวกับอาหาร:

  • I’m starving!
    ฉันหิวมากๆ
  • Let’s grab a bite to eat.
    ไปหาอะไรกินกันเถอะ
  • How about eating out tonight?
    (eat out ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้าน)
  • I’ll have… (use this phrase for ordering in a restaurant)


วลีที่เอาไว้ใช้ตอนที่อากาศร้อน:

  • It’s absolutely boiling! (boiling = ร้อนมากๆ)
    ฉันจะละลายอยู่แล้ว
  • it scorching hot outside
    ข้างนอกมันร้อนมากๆ จะตายอยู่แล้ว


วลีที่เอาไว้ใช้บอกว่าเราเหนื่อย:

  • I’m exhausted.
    ฉันล้ามาก (เหนื่อมาก)
  • I’m dead tired.
    ฉันเหนื่อยเหลือเกิน (เหนื่อยแบบจะตาย)
  • I can hardly keep my eyes open
    ฉันแทบจะเปิดตาไม่ได้แล้วเนี่ย
  • I’m gonna hit the sack. (hit the sack แปลว่า ไปนอน)
    ฉันจะไปนอนแล้วนะ
Share
.