Phrasal verb ที่ห้ามแปลตรงตัวเด็ดขาด

4931


อย่างแรกเลยอยากให้ทุกคนสังเกตุและลักษณะของ Phrasal verb หรือในภาษาไทยเราเรียกมันว่า “กริยาวลี” ซึ่งคำกริยาวลีในภาษาอังกฤษนั้น มันจะไม่ได้มีความหมายตรงตัว อย่างเช่นคำว่า “Look After” เนื่องจากคำว่า “look” แปลว่ามอง ส่วน “after” แปลว่าหลังจาก ซึ่งถ้าแปลตรงตัว ก็คงจะแปลว่ามองจากข้างหลัง แต่จริงๆแล้วมันแปลว่า “ดูแล” เห็นไหมเราไม่สามารถแปลมันตรงตัวได้จริงๆ อย่างไรก็ตามมันยังมีคำอื่นๆที่เราไม่สามารถแปลตรงตัวได้ แต่คำที่เราจะนำมาในวันนี้ เป็นคำที่ถ้าคุณแปลตรงตัวแล้วเนี่ย จะอันตรายเป็นอย่างมาก ด้วยความหมายของมัน มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง 


Hook Up (ฮุคอัพ)

.

จริงๆความหมายของคำนี้มีหลากหลายนะ แต่อยากให้โฟกัสความหมายอีกอันนึงเลยนั่นก็คือ “มีเพศสัมพันธ์” แล้วมันแปลว่าอย่างนั้นจริงๆ 555 ซึ่งอยากจะบอกว่า อย่าเอาไปใช้กับใครบ้างนะ ประโยคนี้จะปรากฏในสถานการณ์ที่แบบว่ามีความโรแมนติก เพราะฉะนั้นสถานการณ์ทั่วไปเราจะไม่พูดคำนี้นะ 


Hit On (ฮิต ออน)

ส่วนคำนี้นั้น “hit” แปลว่าตี “on” แปลว่าบน ข้างบน  ถ้าแต่ตรงตัวก็คือตีบนอะไรบางอย่าง  เอ้ยไม่ใช่ เราจะแปลตรงตัวไม่ได้สิ ความหมายจริงๆของคำนี้นั้นแปลว่า “จีบ” นั่นเอง

 

Get it on (เกท อิท ออน)

มาอีกแล้วคำประเภทนี้ 5555 สุ่มเสี่ยงเหลือเกิน แต่เพื่อผู้อ่านเราย่อมทำได้เสมอนะคะ คำนี้ความหมายจริงๆของมันจะคล้ายๆกับอันแรกเลย นั่นก็คือ “มีเพศสัมพันธ์, มีอะไรกัน, มี Something กัน” จริงๆความหมายก็ประมาณนั้นแหละ 


Stroke it (สโตรค อิท)

เราทำเพื่อคนอ่านจริงๆนะคะเนี่ย อย่างคำนี้เนี่ย โคตรสุ่มเสี่ยงเลย 555 คำนี้จะมีความหมายเดียวกันกับคำในภาษาอังกฤษคำว่า “Musturbate” ความหมายของมันก็คือ “ช่วยตัวเอง” เห็นไหมล่ะ สุ่มเสี่ยงไหมล่ะ 555


Eat out (อีท เอ้าท์)

คำนี้ดูจะเหมือนไม่มีอะไรเวลาแปลตรงตัว แต่ด้วยตัววลีนั้น บอกเลยไม่ธรรมดา “eat” แปลว่ากินหรือรับประทาน “out” แปลว่าข้างนอก  ถ้าแปลตรงตัวออกไปกินข้าวข้างนอกหรือเปล่านะ 555 แต่ความจริงแล้วมันแปลว่า  “การมีเพศสัมพันธ์ด้วยปาก หรือออรัลเซ็กซ์ (Oral sex)” เอิ่ม…. ถ้าอยากรู้ว่ามันแปลว่าอะไรหรือมันคืออะไร ต้องไปหาดูเอาเองแล้วนะอันนี้


ask somebody out (อาส์ค ซัมบาดิ่ เอ้าท์)

คำนี้มีความหมายว่า  “ชวนใครบางคนออกไปเดต” ตัวอย่างเช่น 

  • Brian asked Judy out to dinner and a movie.
    ไบรอันชวนจูดี้ออกไปเดททานข้าวเย็นและไปดูหนัง


call something off (คอล ซัมธิง ออฟ)

คำนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วมันแปลว่า cancel หรือยกเลิกนั้นเอง ซึ่งถ้าจะเอาไปใช้ต้องระวังดีๆนะ ถ้าพูดผิด ผู้ฟังอาจจะเข้าใจผิดได้ 

  • Jason called the wedding off because he wasn’t in love with his fiancé.
    เจสันยกเลิกงานแต่งงานเพราะเนื่องจากว่าเขาไม่ได้รักคู่หมั้นของเขาอีกต่อไป


break up (เบรค อัพ)

คำนี้เชื่อว่าหลายๆคนได้ยินบ่อย มันมีความหมายว่า “เลิกกัน” ที่ไม่ใช่เลิกงาน หรือเลิกฟังเพลง แต่แปลว่าเราเลิกกันเถอะอะไรแบบนี้ พูดแล้วเศร้าเลย ตัวอย่างเช่น 

  • My boyfriend and I broke up before I moved to America.
    ฉันได้เลิกกับแฟนก่อนที่ฉันจะย้ายมาอยู่อเมริกา

แต่จริงๆมันก็มีความหมายเหมือนกัน นั่นก็คือความหมายที่ว่า “เริ่มขำ เริ่มหัวเราะ” แต่มันจะไม่ทางการมากๆ ตัวอย่างเช่น 

  • The kids just broke up as soon as the clown started talking.
    เด็กๆก็เริ่มหัวเราะทันทีที่ตัวตลกเริ่มพูด


hold somebody/ something up (โฮล ซัมบาดิ่/ซัมธิง อัพ)

เนื่องจากคำว่า “hold”  แปลว่าถือ  “up” แปลว่า บนข้างบน เพราะเอามารวมกันรับแปลตรงตัวจะได้ความหมายว่า ถือของข้างบน…. เอ่ออ…ไม่น่าใช่นะ ความหมายมันแปลว่า “ปล้น” นั้นเอง ตัวอย่างเช่น 

  • A man in a black mask held the bank up this morning.
    ผู้ชายที่ใส่หน้ากากสีดำได้ปล้นธนาคารไปเมื่อเช้านี้


pass away (แพส เซ่อะเว)

และคำสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงนี้นั้นเชื่อว่าหลายๆคนเคยได้ยินบ่อยๆแล้ว ซึ่งแปลว่า “ตาย เสียชีวิต” ตัวอย่างเช่น 

  • His uncle passed away last night after a long illness.
    ลุงของเขาได้จากไป(เสียชีวิต)เมื่อคืนนี้หลังจากที่ป่วยมานาน
Share
.