ถ้าพูดถึงการทักทายนั้น เรามักจะทำทุกวันไม่ว่าจะเป็นการทักทายเพื่อน ครอบครัว เพื่อนบ้าน คนรู้จัก คนที่ไม่รู้จักก็ตาม โดยปกติแล้วนั้นไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ตาม การทักทายถือเป็นอีกมารยาทหนึ่งที่ควรจะทำ ถึงแม้ว่าบางทีอาจจะเป็นบทสนทนาสั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เราสามารถฝึกกันได้โดยทำทุกวันให้เคยชิน เพื่อที่ว่าเวลาเรานำไปพูดจริงๆเราจะได้รู้สึกไม่เขิน ที่นี้มาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้างถึงจะสามารถทักทายเป็นภาษาอังกฤษให้ดูสุภาพและ friendly
.
.
.
สิ่งแรกที่อยากจะนำเสนอและเป็นสิ่งที่ควรจะทำนั่นก็คือการ make eye contact คือถ้าเกิดว่าเราไม่สามารถมองตากับคนที่เราสื่อสารกันได้ มันก็เหมือนกับว่าเราเป็นคนที่ไม่จริงใจ ดังนั้นเวลาที่เราคุยกับใครก็อย่าลืม make sure ว่าเราได้คุยกับเขาแบบจริงใจด้วยกันมองตานั้นเอง ตัวอย่างก็อย่างเช่น
ถ้าเราเป็นพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งแล้วเราต้องการที่จะถามลูกค้าเราว่า How’s your day going? ที่มีความหมายว่าเป็นยังไงบ้างนั่นเอง แต่เวลาที่เราคุยนั้นก็อย่าลืม make eye contact เพราะถ้าเราถามคำถามนี้แล้วไม่ได้มองตาของผู้ฟังอย่างจริงใจ มันก็เหมือนกับการที่เราถามแบบไม่จริงใจนั่นเอง
.
.
.
สิ่งต่อมาถ้าอยากให้ดูเป็นคน friendly ก็ควรจะ smile หรือยิ้มอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่อยู่ข้างในเรา แต่เวลาที่เราสื่อสารกับคนอื่นนั้นสิ่งที่จะทำให้คนรอบข้างรู้สึกแฮปปี้ไปด้วยการที่เรายิ้ม เมื่อใดก็ตามที่เราพูดแล้วไม่ยิ้ม มันอาจจะทำให้บรรยากาศของบทสนทนาแย่ลง
.
.
.
สิ่งต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ be polite and courteous สิ่งนี้มันสำคัญมากๆ มันคือการที่เราต้องสุภาพ และมีมารยาทเสมอ สิ่งนี้จะขาดไม่ได้เลยเวลาที่เราคุยกับคนอื่นโดยเฉพาะคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน มารยาทและความสุภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แปลภาษาอังกฤษนั้นเรามีคำหลากหลายมากที่มีทั้งสุขภาพและไม่สุภาพทั้งๆที่มีความหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นต้องเลือกใช้ดีๆ และอย่าลืมศึกษาเรื่องมารยาทในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะถ้าเราไปต่างประเทศและได้มีบทสนทนากับ Native speaker ก็อย่าลืมศึกษาเรื่องมารยาทด้วย เพราะในแต่ละประเทศจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป
.
.
.
สิ่งต่อมาเลยที่ควรจะมีเหมือนกันนั่นก็คือ be positive หรือการที่คิดบวกแน่เอง อย่างไรก็ตามเวลาที่เราออกไปเจอคนและมีการพูดคุยกับคนอื่นนั้น เราก็ควรจะคิดดีเข้าไว้ คิดดีในที่นี้หมายความว่า พยายามหลีกเลี่ยงการติฉินนินทา โดยเฉพาะการที่เราได้พูดคุยกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน แล้วการที่เราอยากจะไปตีสนิทกับเขาโดยการกล่าวถึงบุคคลที่ 3 เพื่อให้ดูว่าเรานั้นอยากตีสนิทกับเขา แบบนี้ใช่ว่าทุกคนจะคิดเหมือนกันหมด บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วให้ดีที่สุด ก็พยายามหลีกเลี่ยงกับสิ่งที่มันเป็นลบ หรือแม้กระทั่งการพูดภาษาอังกฤษหรือการตอบโต้ในภาษาอังกฤษ เราก็ควรพูดแต่สิ่งดีๆ
Unless you know the person you’re greeting very well, avoid complaining, gossiping and being negative. Keep greetings and responses positive.
.
.
.
Be confident คือสิ่งที่ทุกคนต้องมี ความมั่นใจนั้นในแต่ละคนอาจจะมีไม่เหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าเวลาที่เราพูดภาษาโดยเฉพาะภาษาที่ไม่ใช่ภาษาของเรา ความมั่นใจอาจจะลดลง ดังนั้นแล้วอย่าลืมว่าเราพูดภาษาหนึ่งออกมาเพื่อให้ผู้ฟังนั้นเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ ถ้าเกิดมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไวยากรณ์หรือคำศัพท์หรือการออกเสียงก็ตาม อย่าไปกังวลและคิดมาก ความมั่นใจนี้จะทำให้เรารู้ถึงข้อผิดพลาดถ้าเราไม่กล้าพูดเราก็จะไม่รู้ว่าเราพูดผิดหรือพูดถูก เพียงแค่ว่าผู้ฟังนั้นเข้าใจสิ่งที่เราจะซื้อก็พอ แต่ถ้าเกิดว่าเราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดก็ควรจะนำมาพัฒนาและต่อยอดให้ภาษาของเรานั้นดีขึ้นไปเรื่อยๆ
.
.
.
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เวลาที่เราคุยกับต่างชาติ จะมีอีกอย่างนึงที่เขาเรียกว่า Show Interest in People มันก็คือการที่เราให้ความสนใจและใส่ใจกับสิ่งที่คนอื่นพูด ถ้าสมมุติว่ามีคนมาถามเราว่าสบายดีไหม เราก็ควรจะตอบกลับว่าสบายดีและควรถามกลับ ดังนั้นแล้วการใส่ใจหรือการแสดงความสนใจกับอีกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีและอยากเป็นมิตรกับเรา
- Customer: How’s your day going?
สวัสดี วันนี้คุณเป็นไงบ้าง - Cashier: Pretty good. Thanks for asking. How are you today?
ก็ดีนะ ขอบคุณที่ถามนะ แล้วคุณล่ะ
.
.
.
สิ่งนี้จะสำคัญมากๆบางคนถึงกับขนาดค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้เลยทีเดียว มันก็คือการ Remember People เมื่อใดก็ตามที่เราได้ทักทายคนนั้นเราควรจะจำชื่อและใบหน้าของเขาด้วย ถ้ายิ่งเราจำคนอื่นได้มากเท่าไหร่ เขายิ่งจะประทับใจในตัวเรามากขึ้น เพราะเขาจะรู้สึกสำคัญนั่นเอง เราจะเคยเห็นในหนังหลายๆเรื่อง กับเวลาที่ คนจะต้องแกล้งทำเป็นจำอีกฝ่ายได้โดยการเดาชื่อ และสร้างสถานการณ์ว่าเคยเจอที่นั่นที่นี่ แต่ความจริงแล้วจำไม่ได้ แบบนี้ผู้ฟังถ้ารู้ความจริงอาจจะรู้สึกแย่ ดังนั้นแล้วเวลาเราคุยกับใครอย่าลืมจำชื่อแล้วจำใบหน้า
