“ปัจจุบันทันด่วน”
S. + V1 |
ต่อไปนี้ ครูจะเริ่มนำเสนอเรื่องของ Tense (เทนส์) ไปทีละบทความ จนครบทั้ง 12 เทนส์นะครับ จะเรียกว่า ‘Tense: The Series’ ก็ได้ (ฟังดูอลังการใช่ไหมล่ะ) โดยเริ่มจาก…..
Present Simple เป็นประโยคที่นำคำมาเรียงกันเพื่อให้ได้ใจความสมบูรณ์ เพียงใจความเดียวเท่านั้น โดยมีคำนามหรือสรรพนามที่ทำหน้าที่ ประธาน (S.) + คำกริยาแท้ (V.แท้)หรือคำกริยาช่วย (V.ช่วย) ก็ได้ แต่ต้องเป็นกริยาช่องที่ 1 (V.1)
เช่น
He swims like a fish. เขาว่ายน้ำได้เหมือนปลาเลย
*หาก S. = เอกพจน์บุรุษที่ 3 (He, She, It, …ชื่อคน/สัตว์/สิ่งของ…..) + V. (ต้องเติม -s/ -es)
ทีนี้ การทำ Present Sim ให้เป็น ประโยคปฏิเสธ ก็เพียงเติม not เข้าไปหลัง V.ช่วย
ตัวอย่างเช่น
I am not a student. ฉันไม่ใช่นักศึกษา
(หากเป็นประโยคที่ใช้ V. แท้ และต้องการทำเป็นรูปปฏิเสธ ก็ต้องเอา V.ช่วยมาทำเป็นประโยคปฏิเสธ เช่น He doesn’t swim like a fish.)
*************
ส่วนการทำให้เป็น ประโยคคำถาม ก็เพียงสลับ V.ช่วย มาไว้หน้า S.
ตัวอย่างเช่น
Are you a student? คุณเป็นนักศึกษาหรือเปล่า?
Does (เอกพจน์) / Do (พหูพจน์) ใช้ช่วยเมื่อเราต้องการเปลี่ยนจากประโยคบอกเล่าเป็นประโยคคำถามและประโยคปฎิเสธ เมื่อ V. have ไม่มี, V. be ไม่อยู่, จึงจะเอา V. do มาช่วย
ตัวอย่าง 1
ประโยค | ตัวอย่าง 1 | ตัวอย่าง 2 |
บอกเล่า | They go to the gym.พวกเขาไปโรงยิม | He comes from England. เขามาจากอังกฤษ |
ปฏิเสธ | They do not go to the gym. พวกเขาไม่ได้ไปยิม | He does not come from England. เขาไม่ได้มาจากอังกฤษ |
คำถาม | Do they go to the gym? พวกเขาไปโรงยิมเหรอ? | Does he come from England? เขามาจากอังกฤษเหรอ? |
(การเปลี่ยนประโยคที่ใช้ v. have จะใช้วิธีเอา s. สลับ v.
หรือจะทำโดยเอา v. do มาช่วยนำหน้าประโยค ก็ถือว่าถูกต้องเหมือนกัน)
.
.
.
กาลเทศะ (Tense)
Present Simple Tense นั้น ใช้กับประโยคบอกเล่าทั่วๆไป ถือว่าเป็นเทนส์พื้นฐานที่ใช้บ่อยมากที่สุดเลยครับ
ตัวอย่างเช่น
They sing a song. พวกเขาร้องเพลง
We like her. เราชอบเธอ
I love it. ฉันรักมัน
ปกติแล้ว มันใช้กับความจริงที่เป็นกฎตายตัว เช่น ความจริงตามธรรมชาติ ความจริงทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
The sun rises in the east.
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก
Each day has twenty-four hours.
ในแต่ละวันมี 24 ชั่วโมง
Water consists of hydrogen and oxygen.
น้ำประกอบด้วยไฮโดรเจนกับออกซิเจน
นอกจากนี้ ยังใช้กับ การการกระทำในปัจจุบัน ที่ทำอยู่เป็นประจำ หรือเป็นจริงในขณะที่พูด
I am twenty-two years old.
ฉันอายุ 22 ปี
My friends and I usually go to concerts together.
เพื่อนของฉันและฉันมักจะไปคอนเสิร์ตด้วยกัน
Tips
ส่วนใหญ่ Present Simple มักจะมีคำกริยาวิเศษณ์บอกการกระทำที่ทำเป็นประจำหรือสม่ำเสมอ ดังตัวอย่างคำศัพท์ต่อไปนี้
always สม่ำเสมอ everyday ทุกวัน
often บ่อยๆ every week ทุกสัปดาห์
usually โดยปกติ every month ทุกๆเดือน
every now and then นานๆครั้ง once/twice a week สัปดาห์ละ 1/2 ครั้ง
“Yesterday‘s the past,
tomorrow‘s the future,
but today is a gift.
That’s why it’s called the present.”
*สำหรับใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถกดปุ่ม inbox มุมขวาล่าง ทักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ*
คำถามทดสอบ:
1) คำใดไม่ใช่คีย์เวิร์ดของ Present Simple Tense
a. often
b. usually
c. always
d. lately
2) ประโยคใดเป็น Present Simple
a. I pay a visit to my grandmother every week.
b. She went to school.
c. He has finished his homework.
d. ถูกทั้งข้อ b. และ c.
3) ประโยคปฏิเสธใด เขียนเป็น Present Simple Tense ไม่ถูกต้อง
a. He does not come from Korea.
b. He is not from Korea.
c. He does not from Korea.
d. He isn’t from Korea.
เฉลย :
1. ( ข้อ d. ) เพราะคำว่า lately มีความหมายประมาณว่า ‘ในช่วงที่ผ่านมา’
2. ( ข้อ a. ) ส่วนข้อ b. และ c. เป็น Tense อื่นๆครับ
3. ( ข้อ c. ) เพราะการจะนำ V. to do มาช่วยทำเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธนั้น ในประโยคต้องมี V.แท้อยู่ก่อนแล้ว (ดูข้อ a. เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ)