7 วิธีปฏิเสธคนอย่างไร .. ไม่ให้เสียน้ำใจ

3443

เคยไหม? อยากจะ say no แต่ก็เกรงใจ๊เกรงใจ ไม่กล้าพูด ไม่รู้จะพูดอย่างไงดี กลัวเค้าเสียใจ ทำตัวไม่ถูก วันนี้ทางเรามีคำที่คุณสามารถเอาไปใช้ได้ในยามขับขันได้ เพราะเนื่องด้วยจากสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องทำ แต่บางทีเราก็ห่วงความรู้สึกของคนฟัง

ตัวอย่างเช่นเวลาที่เราไปเดินห้าง แล้วมีพี่ๆเซลล์มาขายของเราแต่เราก็มีธุระต้องไปแล้ว ซึ่งเราไม่รู้จะพูดอย่างไงดี กลัวพี่เค้าเสียความรู้สึก เพราะงั้นเราจึงมีคำที่สุภาพมากๆ สามารถใช้ได้จริง มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
.
.
.

.
  1. Not today, thanks.

:  ถ้าแปลตรงตัวก็คือ “ยังไม่ใช่วันนี้ ขอบคุณนะ” อันนี้จะเป็นประโยคที่ค่อนข้างสั้นและไม่ค่อยทางการเท่าไหร่ ถ้าพูดด้วยเสียงเเข็งๆอาจจะดูห้วนๆ อันนี้จะเหมาะสำหรับเวลาที่เราไปเจอพนักงานแจกใบปลิว หรือขายของต่างๆ เราสามารถพูดประโยคนี้ได้เหมือนกัน แต่ก็อย่าลืมพูดด้วยโทนเสียงสุภาพ จะทำให้เราน่ารักขึ้นอีกด้วยน้า
.
.

2. Let me sleep on it.

: ถ้าแปลตรงตัวก็คือ “นอนหลับบนมัน” แต่ความหมายจริงๆแล้วของบริบทนี้คือ ขอกลับไปคิดก่อน อารมณ์ประมาณว่าขอกลับไปนอนคิดก่อนนั่นเอง วิธีนี้คือการที่เราต้องการเวลาเพิ่มเพื่อการตัดสินใจ หรือเป็นการบอกปัดๆไปแบบทำให้อีกฝ่ายไม่เสียหน้าหรือความรู้สึกนั่นเอง
.
.

3. Actually, I think I’m going to pass on it, if you don’t mind.

: “ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ฉันขอผ่านก่อนละกันนะ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร” อันนี้คือสุภาพมากกกกกกกกกก เป็นการบอกปัดอย่างตรงไปตรงมาและสุภาพที่สุด แต่เราจะสามารถใช้ประโยคนี้ได้หลังจากที่ได้อธิบายบางสิ่งบางอย่างไปเรียบร้อยเเล้วอย่างเช่น I really like this shirt but actually, I think I’m going to pass on it, if you don’t mind. ฉันว่าฉันชอบเสื้อตัวนี้นะแต่ก็นะ ฉันขอผ่านก่อนละกันถ้าเธอไม่ว่าอะไร
.
.

4. It’s a great offer, but …

: “เป็นข้อเสนอที่ดีนะ แต่….” อันนี้คือการพูดตัดบทอย่างเรียบง่าย สุภาพและเป็นการเกริ่นก่อนว่า “It’s a great offer” คือมันก็ดีนะเพื่อเป็นการชมอีกฝ่ายก่อน และจบประโยคด้วย but และตามด้วยเหตุผลของเราอย่างเช่น

“It’s a great offer, but I have to go now”  มันก็เป็นข้อเสนอที่ดีนะ แต่ตอนนี้ฉันต้องไปแล้วละ สามารถเอาไปใช้ในเวลาที่เร่งรีบได้เหมือนกัน
.
.

5. I can’t this time.

: จริงๆแล้วอันนี้เป็นวลีที่มีประโยชน์มากๆ สามารถใช้เพื่อปฏิเสธข้อเสนออะไรบางอย่างได้ อย่างเช่น 

“Can you check my report for me?” คุณช่วยดูรายงานให้ฉันหน่อยได้ไหม

“I’m really sorry, but I can’t this time. I’ve got to finish something urgently.” 
“ ฉันขอโทษจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้ ฉันต้องทำบางอย่างให้เสร็จโดยด่วนก่อน”
.
.

6. I appreciate the offer, but …

: “ฉันซาบซึ้งในน้ำใจของเธอนะ แต่…?” จริงๆแล้วประโยคนี้จะค่อนข้างทางการมากกว่าประโยคอื่นๆ เราจะสามารถพูดได้เมื่อมีคนเสนอความช่วยเหลือโดยที่เราไม่ต้องการนั่นเอง อย่างเช่น

“Would you like me to finish the report for you?” เธอให้ฉันทำรีพอร์ตให้ไหม

“I appreciate the offer, but I think I can do it in time.” ฉันซาบซึ้งในน้ำใจเธอนะ เเต่ฉันคิดว่าฉันทำทันอยู่
.
.

7. It’s very kind of you, but…

: “คุณใจดีมากจริงๆ แต่..” เราจะสามารถพูดสิ่งนี้เพื่อแสดงความขอบคุณข้อเสนอที่มีคนเสนอให้เรา อย่างเช่นมีคนเสนอว่าจะทำการบ้านให้เราอะไรประมาณนี้ แต่บางข้อเสนอเราก็ไม่สามารถรับได้ เราจึงมีคำว่า but “ แต่” เพื่อแสดงว่าคุณรับไม่ได้ ตัวอย่างเช่น

Would you like me to do homework for you? ให้ฉันทำการบ้านให้ไหม

It’s very kind of you, but I can do it myself. คุณใจดีมากจริงๆ แต่ฉันทำเองได้น่ะ


ก็ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ จริงๆประโยคเหล่านี้เราสามารถฝึกใช้ในสถานการณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันเราได้เลย แต่เนื่องจากเราไม่ได้พูดภาษาอังกฤษจริงๆในเวลาที่ชีวิตจริง แต่เราสามารถฝึกได้โดยการนำเอามาลองแต่งประโยคและฝึกพูดเองก็ได้นะ ลองดูค่าาา ^^

Share
.