เรื่องของการใช้ V แท้ในประโยคบอกเล่า มีหลักการง่ายๆ คือ หากปราศจาก V ช่วยตัวใดตัวหนึ่ง (ใน 3 ตัว คือ V. to be, V. to do และ V. to have) แล้วล่ะก็…….
เราก็จะรู้ได้เลยว่า ต้องมี V. แท้ ซึ่งเป็นคำกริยาเพียวๆ ธรรมดาๆนี่แหละ อยู่ในประโยคนั้นด้วย
อย่างที่บอกแล้วว่า ประโยคใดๆก็ขาด V ไม่ได้เลย
ถ้าไม่มีเวิร์บแท้ ก็ต้องมีเวิร์บช่วยตัวใดตัวหนึ่ง
.
.
.
.
.
ประเด็น คือ คำศัพท์ที่เป็น V แท้ก็มีหลากหลายคำด้วยกัน มากมายจนนับไม่ถ้วนในขบวนภาษาอังกฤษ
….แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะบทสนทนาภาษาอังกฤษที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำศัพท์ V แท้ที่มีความหมายลึกล้ำหรือมีตัวสะกดซับซ้อนสักเท่าไรหรอกครับ
ภาษาอังกฤษมีคำศัพท์หลายคำที่มีความหมายเดียวกันให้เลือกใช้ เช่น คำว่า ‘ใช้’ (use, adopt, apply, resort ฯลฯ)
…แต่มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะรู้คำศัพท์ในภาษาอังกฤษทุกคำ แม้แต่เจ้าของภาษาเองก็เถอะ ดังนั้น เวลาเราพูดคุยกับฝรั่ง ก็ไม่ต้องกลัวครับ หายใจเข้าลึกๆและนึกถึงคำง่ายๆเข้าไว้ เพราะฝรั่งเองเค้าก็ชอบใช้คำศัพท์ง่ายๆ เหมือนกัน
ตัวอย่างเช่น ในบทสนทนาดังต่อไปนี้:
Adam: I need to use a motorcycle, Peter. – ข้าจำเป็นต้องใช้มอเตอร์ไซค์สักคันว่ะ ปีเตอร์
Peter: You buy it, then. – งั้นเอ็งก็ซื้อสิวะ
Adam: Not now, I want to ride you first. – ไม่ล่ะ ตอนนี้ข้าอยากลองขี่เอ็งดูก่อน
Peter: You wish! I like a woman! – ฝันไปเหอะ! ข้าชอบผู้หญิงเฟ้ย!
Adam: Let’s have the sandwich. – ไปกินแซนวิชกันก็ได้ (พูดแบบความหมายสองแง่สองง่าม)
Peter: Go to hell, buddy. – ไปลงนรกเถอะ เจ้าเพื่อนเกลอ!
คำต่างๆที่ทำเป็นตัวสีฟ้าและตัวหนาไว้ข้างต้นนั่นเองครับ ที่เป็นตัวอย่างคำศัพท์ V แท้ ซึ่งใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวันทั่วไป
ฝรั่งเค้าไม่ถือสาหากเราจะใช้คำง่ายๆ แต่เค้าจะโฟกัสว่า เราใช้คำนั้นๆอย่างไรต่างหาก เพราะถ้าเราใช้ผิดหลักแกรมม่าร์ ฝรั่งเค้าจะงงกับความหมายของประโยคที่เราต้องการจะสื่อสาร
หนึ่งในกฏสำคัญที่ควรจำให้แม่นเลยก็คือ…..
ในประโยคบอกเล่าปัจจุบัน ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (ยกเว้น ‘I’ กับ ‘You’) แล้วล่ะก็…V แท้ที่ตามหลังมา ต้องเติมหรือออกเสียง s ด้วยนะ
ทำไมต้องมี s น่ะเหรอ?
หึหึ…..คำถามนี้ก็ตอบยากอยู่นะน้อง เอาเป็นว่า ฝรั่งเค้าให้เติม ก็เติมไปเถอะ
…….เอ๊ย! ไม่ใช่อย่างงั้น
คือ การที่เติม s เข้าไป ก็เพื่อเน้นย้ำให้ผู้ฟังเข้าใจว่า เรากำลังพูดถึงประธานเอกพจน์ บุรุษที่ 3 (เนื่องจากคำนามบางคำ อาจทำให้คนฟังสับสนได้ว่า มันมีจำนวนเดียวหรือจำนวนมาก)
น้องๆที่เป็นนักศึกษาควรจะรู้เรื่องนี้ไว้เป็นพิเศษ เพราะโจทย์ข้อสอบจะมีอยู่บ่อยๆเลยล่ะ ประเด็นการเติม s เนี้ยยยย!!
….แล้วก็อย่าลืมว่า จะเติม ‘s’ หรือไม่ ก็ไม่ใช่ตัวบ่งบอกว่า V แท้คำนั้นๆ เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์
ดังนั้น ในกรณีที่เจอคำ ‘วลี’ เช่น He walks, She loves, It bites, Peter likes, Willy sings หรืออะไรต่างๆเหล่านี้ ถึงแม้พวกมันจะเติม‘s’ แต่ก็ยังถือว่า มันเป็น เอกพจน์
*สำหรับใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถกดปุ่ม inbox มุมขวาล่าง ทักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ*
คำถามทดสอบ:
1) ข้อใดไม่ใช่กริยาแท้
a. ride
b. does
c. fly
d. play
2) เติมคำในช่องว่าง
People ______ to avoid Covid-19
a. try
b. tries
c. trying
d. Is trying
3) เติมคำในช่องว่าง
I ______ English language at Engnow.
a. teaches
b. teachs
c. teaching
d. teach
เฉลย
1. ( ตอบ ข้อ b. เพราะ does เป็นกริยาช่วยในกลุ่ม V. to do )
2. ( ตอบ ข้อ a. เพราะประธานในประโยคบอกเล่าดังกล่าวเป็นพหูพจน์ กริยาแท้ที่ตามหลัง จึงไม่ต้องเปลี่ยนรูปหรือเติมอะไรต่อท้าย )
3. ( ตอบ ข้อ d. เพราะถึงแม้ประธานในประโยคจะเป็นเอกพจน์ แต่เป็นบุรุษที่ 1 ไม่ใช่บุรุษที่ 3 กริยาแท้ที่ตามหลัง จึงไม่ต้องเติม s หรือ es )