น้อยหน้าได้ยังไง ปล่อยให้เจ้าคำนามมีตัวแอ็ด (แอ็ด = ‘ขยาย’) อยู่ฝ่ายเดียว เวิร์บหรือคำกริยาก็มีตัวแอ็ดได้เหมือนกันจ้า
เราย่อสั้นๆว่า แอ็ดวี ก็แล้วกัน เพื่อให้จำคู่กันกับ แอ็ดเจ
“ม่ายช่ายบ่าววีนะน้องนะ” ทีมงานกระซิบมาด้วยสำเนียงภาคใต้
ไม่ต้องไปจำคำว่า ‘กริยาวิเศษณ์’ ด้วย เพราะมันฟังเหมือนหนังจักรๆวงศ์ๆเกินไป เดี๋ยวจะงงกันเสียเปล่าๆ
ว่าแต่…..มันเป็นยังไงล่ะ เจ้า Adv. หรือ แอ็ดวี เนี่ย?
หาก ‘อาเจ้’ หรือ เจ้าแอ็ดเจอถีบ (adj.) ใช้ขยายนามแล้วล่ะก็…..แอ็ดวี (adv.) จะขยายอะไรได้อีกล่ะ ก็ต้องใช้กริยาหรือ V. น่ะสิคร๊าบบบ
ก็แหม่…..ตรงตัวซะขนาดนั้น
Add + Verb = Adverb = Adv.
V. แท้ เท่านั้นนะครับ ส่วน V ช่วย เช่น V.be/ V.do/ V.have นั้นไม่เกี่ยว ไม่ต้องไปขยายมัน!
ธีมของ Adv. หรือคำขยายกริยา เปรียบไปก็คล้ายๆกับ ‘คุณสมบัติ’ ของนักฟุตบอลแต่ละคน ซึ่งมีความสามารถแตกต่างกันไป
บางคนก็วิ่งเร็วจนไล่ไม่ทัน บางคนก็เชื่องช้า แต่กระโดดได้สูงลิบลิ่ว เป็นต้น
บอกใบ้ให้ขนาดนี้แล้ว น้องๆพอจะยกตัวอย่างคำขยายนามสัก 4-5 คำ ได้หรือไม่?
Adverb ส่วนใหญ่ ก็ยืมมาจาก Adjective นั่นเอง โดยเอามาเติม ‘ly’ เข้าไป
เช่น
Adj. คำว่า beautiful – beautiful girl แปลว่า สาวสวย
(สวย ขยายคำว่า สาว)
เอามาทำเป็น Adv. กลายเป็น beautifully – smile beautifully แปลว่า ยิ้มอย่างสวยงาม
(อย่างสวยงาม ขยายคำว่า ยิ้ม)
แต่ V. บางตัว หากเติม ly เข้าไป กลับกลายเป็น Adj. ก็มี เช่น She is lovely. หล่อนเป็นคนน่ารักน่าชัง อย่างไรก็ตาม คำในลักษณะดังกล่าวมีน้อยคำ จึงไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ และมักเป็นคำง่ายๆ เช่น ugly, silly,
…..แค่ดูความหมาย ก็จะรู้เองว่า มันขยายนาม หรือขยายกริยา
ที่สำคัญ สมัยนี้คำบางคำก็อาจไม่ต้องมี ‘น้องลี่’ หรือ ‘ly’ ก็ได้
เช่น คำว่า fast กับ high – eat fast, run fast, fly high เป็นต้น —- แต่ก็มีน้อยมากสำหรับคำประเภทนี้
ดังนั้น การนำ Adv. มาใช้ให้ถูกหลัก ส่วนใหญ่จะยังคงมีการเติม ‘ly’ ต่อท้ายอยู่นะครับ จำให้ดีๆ
แม้แต่บางคำที่ไม่ได้แปลงมาจาก Adj. ก็ยังมี -ly บอกให้รู้เหมือนกันว่า เป็น Adv.
เช่น Daily, Weekly, Yearly เป็นต้น
I work daily. – ฉันทำงานแบบรายวัน
I play badminton weekly – ฉันตีแบตมินตันทุกสัปดาห์
They check the inventory yearly – พวกเขาเช็คสต็อคสินค้าเป็นประจำทุกปี
สุดท้าย ก็ยังมี Adv. แบบที่ใช้บ่งบอกความถี่ของกริยาหรือกิจกรรมที่เราทำ เช่น seldom – นานๆครั้ง, always ทำสม่ำเสมอ, often – ทำบ่อย, occasionally – ทำเป็นบางครั้ง
รวมถึงใช้ขยายอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วย เช่น คำว่า very – มาก, a bit/ little – นิดหน่อย, quite – มากทีเดียว เป็นต้น
นอกจากนี้ ก็ยังมี Adv. บอกกาลเวลาด้วย เช่น today, tomorrow, yesterday เป็นต้น
ส่วนคำที่เป็นได้ทั้ง adjective และ adverb โดยไม่ต้องเติม –ly ก็มีเช่นกัน คือ คำว่า…..
- Late: – It is a late train. late เป็น adj.
– He arrives late. late เป็น adv.
- Hard: – A hard chair. hard เป็น adj.
– I work hard. hard เป็น adv.
- Fast: – A fast train. fast เป็น adj.
– A train is running fast. fast เป็น adv.
Tips
การใช้ Adv. หรือคำขยายกริยาในภาษาอังกฤษนั้น จะคล้ายๆภาษาไทย คือ เราจะขยายโดยใส่ Adv. ไว้ข้างหน้าหรือข้างหลัง V. ก็ได้ หรือขึ้นอยู่กับว่า ประโยคนั้นจบลงที่ V. หรือมีข้อความอื่นมาเชื่อมขยายประโยคอีก ถ้ามี ก็ควรจะเอา Adv. ไว้ข้างหน้า V.
สังเกตง่ายๆ เช่น
– She is really nice to me. หล่อนช่างดีกับฉันจริงๆ
– We feel well. ฉันรู้สึกสบายดี
– They speak fluently. พวกเขาพูดได้อย่างคล่องแคล่ว
– She sincerely apologizes for her mistake. หล่อนขออภัยอย่างจริงใจในความผิดพลาด
*สำหรับใครที่กำลังมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ สามารถกดปุ่ม inbox มุมขวาล่าง ทักสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะครับ*
คำถามทดสอบ:
1) เติมคำในช่องว่าง
His coffee tastes __________.
a. sweet
b. sweetly
c. sad.
d. sadly
2) เติมคำในช่องว่าง
He talks to her _________.
a. sweet
b. sweetly
c. sad.
d. sadly
3) คำใดไม่สามารถเป็นทั้ง Adj. และ Adv. (โดยไม่เติม ly)
a. fast
b. hard
c. late
d. beautiful
เฉลย
1. ( ข้อ a. ) เวลาทำข้อสอบ ต้องสังเกตดูให้ดีว่า โจทย์เว้นช่องว่างไว้ ให้เติมคำขยายนามหรือขยายกริยา เพราะคำตอบชอบออกมาให้เลือกแบบสับขาหลอก กรณีนี้ ต้องตอบ sweet ไม่ต้องมี ly เพราะมันขยายนาม (Coffee) จึงจัดเป็น Adj.
2. ( ข้อ b. ) กรณีนี้ต้องใช้คำว่าว่า sweetly เพราะถึงแม้จะแปลว่า ‘หวาน’ เหมือนกัน แต่ข้อหลัง มันใช้ขยายคำว่า talk ซึ่งเป็น V. ดังนั้น จึงต้องทำเป็น adv. ซึ่งก็คือต้องมี ly ด้วยนั่นเอง
3. ( ข้อ d. ) เพราะหากต้องการใช้ beautiful ในรูป Adv. ต้องเติม ly ด้วย เช่น She dances beautifully.
