การทำงานย่อมควบคู่ไปกับการสื่อสารเพื่อให้งานสามารถดำเนินงานไปได้และในแต่ละองค์กรย่อมมีการประสานกันในแผนกต่างๆ ดังนั้นการสื่อสารถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิด และแน่นอนว่าการพูดคุยในที่ทำงานเราควรมีศิลปะในการพูดเพื่อที่จะทำให้การพูดของเราน่าฟังและควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่อาจจะก่อให้เกิดความเคืองใจต่อผู้อื่น
วันนี้จัดวลีที่ไม่ควรพูดในที่ทำงานในเวอร์ชั่น Eng มาฝากกัน
- เชื่อว่าหลายคนเคยเจอเหตุการณ์นี้ในที่ทำงาน เวลาที่เราพบว่าเพื่อนร่วมงานเข้าใจผิด เช่นเวลาที่คุยงานกันและเพื่อนร่วมงานส่งแผนงานไม่ตรงกับตอนที่คุยกันเราจะบอกเค้ายังไง
ในภาษาอังกฤษหากจะบอกใครว่า “คุณเข้าใจผิด” อย่าใช้ You’re wrong. ให้เปลี่ยนเป็น You’re mistaken.
เพราะ You’re wrong. ให้ความหมายในเชิงตำหนิ
ยกตัวอย่าง
- I am afraid you’re mistaken about an appointment.
- แปลว่า ฉันเกรงว่าฉันจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการนัดหมาย
- หากเราได้ยินซุบซิบการเม้าท์กันอย่างเมามันของเพื่อนร่วมงาน และเราอยากให้เค้าเบาเสียงลงหน่อย
ในภาษาอังกฤษ “เงียบ/เบาเสียงหน่อย” ไม่ควรพูดว่า Be quiet ควรใช้ Could you please quite down?
ยกตัวอย่างประโยคอื่นที่สุภาพ
- Could you keep it down, please?
- Could you be a little quieter, please?
- เวลาที่เราต้องปฏิเสธคำเชิญชวนของเพื่อนร่วมงาน อย่าพูดว่า I can’t. เพราะเป็นการปฏิเสธที่ฟังดูห้วนๆและแล้งน้ำใจเกินไป ดังนั้นควรปฏิเสธให้มีชั้นเชิงกว่านี้นิดนึง
ยกตัวอย่างเช่น
- I’m afraid I can’t. เกรงว่าจะไม่สะดวกค่ะ
- I really appreciate you inviting me but I’m sorry I can’t. ขอบคุณที่เชิญฉันไปนะคะแต่ขอโทษด้วยค่ะฉันไม่สะดวกจริงๆ
- I’m sorry, I can’t commit right now. ฉันขอโทษนะคะฉันรับปากคุณตอนนี้ไม่ได้จริงๆ
- หากเราต้องการให้ใครบอกเราในบางเรื่อง อย่าพูดว่า Tell me เพราะเหมือนเป็นการสั่งให้เค้าทำ
ต้องการให้ใคร “แจ้งเราด้วย, บอกเราด้วย”ให้ใช้ประโยคต่อไปนี้
- If you have any suggestions, please let me know. กรุณาแจ้งฉันให้ทราบหากคุณมีคำแนะนำ
- Please let me know your decision. โปรดแจ้งฉันให้ทราบถึงการตัดสินใจของคุณ
- Let me know at your earliest convenience once you’ve finished. แจ้งฉันให้เร็วที่สุดเมื่อคุณดำเนินการเสร็จสิ้น
- เวลาเราคุยกับใครแล้วได้ยินไม่ถนัด ไม่แน่ใจว่าเค้าพูดอะไร อยากถามว่า เมื่อกี้ “พูดว่าอะไร”
ไม่ควรถามว่า What เพราะมันไม่ค่อยเป็นทางการ ควรใช้คำว่า Pardon จะดีกว่า
ยกตัวอย่างประโยคอื่นๆที่สามารถนำไปใช้ได้
- Sorry, could you please say it again? ช่วยพูดอีกทีได้ไหมคะ
- Pardon, I didn’t catch it. อะไรนะคะ ฉันฟังไม่ทัน
- Could you please repeat that? ช่วยพูดซ้ำอีกทีได้ไหมคะ
เห็นไหมว่าไม่ยากเลย ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยก็ทำให้การพูดของเราน่าฟังขึ้น