หากเพื่อนๆ ที่ไม่แข็งแรงด้านภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ อย่าเพิ่งยอมแพ้เลยนะ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เสมอ การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ยากหากเรามีความพยายามแล้ว ลองเริ่มจากการจดจำคำศีพท์ที่สามารถเอาไปใช้งานได้ในชีวิตประจำวันดู แล้วลองฝึกจำไปใช้ทีละคำสองคำ นานวันเข้าเราจะเริ่มเข้าใจคำศัพท์แต่ละคำ รวมถึงการเอาไปรวมกันเป็นประโยคอีกด้วย
เกรงใจ = bother
ในภาษาอังกฤษไม่มีคำแปลเกรงใจออกมาตรงๆ ดังนั้นเวลาเราต้องการจะสื่อว่า เกรงใจ ไม่อยากรบกวนใครสักคน ให้ใช้คำว่า don’t want to bother… แทนจะให้ความรู้สึกเดียวกัน
I don’t want to bother you. ฉันไม่อยากรบกวนคุณ หรือแปลเป็นไทยง่ายๆก็ ฉันเกรงใจคุณ นั่นแหละค่ะ
Am I bothering you? ฉันรบกวนคุณอยู่รึเปล่าเนี่ย?
สมน้ำหน้า = deserve it
จริงๆ แล้วคำว่า deserve… หรือ deserve it เป็นได้ทั้งแง่ลบและแง่บวกแล้วแต่ว่าพูดด้วยอารมณ์แบบไหน และเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร หากใครประสบความสำเร็จ ได้ดิบได้ดี เราก็ใช้คำนี้ได้เพื่อหมายความว่า สมควรแล้วที่ได้ดี แต่ถ้าใครได้รับผลกรรมที่เขาทำไม่ดีไว้ เราก็สามารถใช้คำนี้เพื่อหมายความว่า สมน้ำหน้า หรือสมควรแล้วล่ะ ได้เหมือนกัน
You deserve it! สมน้ำหน้า!
You studied hard this term, you deserve the reward. เธอเรียนหนักมากเลยนะเทอมนี้ เธอก็สมควรได้รับรางวัลแล้วแหละ
ปิ๊ง = have/has a thing about…
have / has a thingในที่นี้ไม่ได้หมายถึง มีของอะไรหรอกแต่มันหมายถึงอาการชอบแบบเห็นแรกพบสบตาแล้วใจสั่น ไม่ถึงขั้นตกหลุมรัก แต่มันชอบ มันรู้สึกวูบๆวาบๆ ประมาณนี้ค่ะ มีอีกคำหนึ่งที่สามารถใช้แทนกันได้ นั่นคือ have / has a crush on…
Adam has a thing about Anne. อดัมปิ๊งแอนอยู่
I have a crush on him. ฉันปิ๊งเขาซะแล้วล่ะ
จีบ = flirt with
เมื่อปิ๊งแล้วก็ต้องจีบ หากใช้พจนานุกรมแปล ก็อาจจะเจอจีบแบบจีบนิ้ว จีบขนมกันก็เป็นได้ ซึ่งห่างจากสิ่งที่ต้องการจะสื่อไปไกลเชียว ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะใช้คำว่า flirt with… แล้ว ยังใช้คำว่า hit on… ได้อีกด้วย
Jen is flirting with Paul. เจนกำลังจีบพอล
That guy is hitting on me! ผู้ชายคนนั้นกำลังตามจีบฉันอยู่ล่ะ!
ถือศีล 5 = follow the five precepts (of Buddhism)
หน้าที่ชาวพุทธก็มา เวลาจะบอกฝรั่งว่า ฉันไม่กินเหล้านะ เพราะฉันถือศีล 5 อันนี้หลายคนต้องตั้งโต๊ะบรรยายความเป็นมาเป็นไปของพุทธศาสนาซะละเอียด เพราะไม่รู้ว่าศีล 5 ในภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่าอะไร
I don’t drink alcohol. I follow the five precepts. ฉันไม่ดื่มเหล้านะ ฉันถือศีล 5 น่ะ
เมารถ = car sick
ปัญหาในการเดินทางสำหรับบางคน เวลาไปกับเพื่อนฝรั่งแต่เกิดอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบินขึ้นมา กระทันหัน อย่าไปใช้ drunk ที่แปลว่า เมาเหล้านะคะ ให้ใช้เป็น car sick (เมารถยนต์) boat sick (เมาเรือ) ส่วนเครื่องบินให้ใช้คำว่า air sick นะคะ ไม่ใช่ plane sick
I feel car sick every time I get in a car. ฉันเมารถตลอดเลยเวลานั่งรถ
แพ้ท้อง = morning sickness
แพ้ท้อง กับอาการแพ้ (allergy) ไม่ใช่อาการเดียวกัน แม้จะใช้คำว่า “แพ้” เหมือนกันก็ตาม
My wife has morning sickness. ภรรยาผมเธอแพ้ท้องน่ะ
ประจำเดือน = period
ประจำเดือนแม้จะมาทุกเดือน แต่ก็ไม่สามารถแปลมันตรงๆ ว่า “every month” ได้ ให้ใช้คำว่า period หรือถ้าเป็นทางการหน่อยเวลาคุยกับคุณหมอก็ menstruation
Don’t annoy her, she has a period today. อย่าไปกวนเธอเชียวนะ วันนี้เธอเมนส์มาล่ะ
My menstruation started when I was 14. หนูเริ่มมีเมนส์ตอนอายุ 14 ค่ะ
ปาน = birthmark
ปานเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เปรียบเสมือนเครื่องหมายติดตัวแรกเกิด ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า birthmark
I have a birthmark on my arm. ฉันมีปานที่แขน
ดัดจริต = affected
คำนี้แรงนิดนึง แต่เป็นคำที่เวลาหมั่นไส้ใครแล้วอยากบอกมากเลยว่าเธอนี่ดัดจริตจริงๆ มักจะนึกหาคำพูดกันไม่ออก
That girl is so affected. เด็กคนนั้นดัดจริตมากเลย