มีคำศัพท์ไหนบ้างที่เพื่อนๆ รู้สึกเขินอายหรือไม่มั่นใจเวลาจะใช้ เพราะไม่แน่ใจว่าสะกดอย่างไร หรืออกเสียงอย่างไรจึงจะถูก หรือบางทีความหมายอาจจะใช้แต่ดันผิดหลักการใช้งาน ไม่มีใครเขาใช้คำนั้นกันแล้ว หรือบางครั้งเป็นคำที่คนอื่นๆ เขาก็ใช้กันในความหมายแบบนั้น เรามีคำศัพท์ควรระวังมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เป็นคำศัพท์ที่คุ้นเคยกันดีแต่อาจจะเผลอใช้งานผิดๆ ไปก็ได้ มาดูกันเลย
Fitness : การเข้าฟิตเนส
คนไทยมักเข้าใจผิดว่า “ฟิตเนส” คือสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งนั่นอาจทำให้ฝรั่งงงกันได้ง่าย ๆ เลยล่ะ เพราะที่จริงมันแปลว่า “สมรรถภาพของร่างกาย” ไม่ใช่สถานที่ออกกำลังกายอย่างที่เราเข้าใจ และถ้าจะสื่อความหมายของสถานที่ต้องใช้คำว่า “Fitness center” หรือใช้คำว่า “gym” แทน
In trend : อินเทรน
ศัพท์ฮิตอีกหนึ่งคำที่มักได้ยินวัยรุ่นใช้บ่อย ๆ นั่นก็คือ “อินเทรน” คำนี้กล่าวถึงวัยรุ่นในปัจจุบันว่า “ทันสมัย” แต่สำหรับฝรั่งคำว่า “ทันสมัย” นั้นจะไม่ใช้คำว่า “in trend” แต่จะใช้คำว่า “trendy” หรือ “fashionable”
No have : ไม่มี
คนไทยส่วนใหญ่มักจะพูดว่า “No have” ซึ่งแปลตรงตัวว่าไม่มี แต่ในภาษาอังกฤษถ้าจะบอกว่า “ไม่มี” จะใช้คำว่า “have no” หรือ “I don’t have”
Out of order : หมด
อีกหนึ่งคำที่จะสื่อความหมายว่า “สินค้าหมด หรือ ถูกสั่งไปหมดแล้ว” นั่นก็คือ “Out of order” ซึ่งความจริงแล้วคำนี้แปลว่า “ชำรุด ใช้การไม่ได้” ถ้าของหมดก็ให้แปะป้ายไว้ว่า “Sold out” หรือ “run out of …” ก็ได้
Stop your mouth : หยุดพูด
คำนี้ไม่มีในภาษาอังกฤษเลยล่ะจ้า ซึ่งถ้าจะพูดแกมบังคับให้หยุดพูดนั้น น่าจะเป็นคำว่า “Shut your mouth หรือ Shut up” มากกว่าหรือถ้าจะสุภาพก็นี่เลย “Please be quiet”
Over : โอเวอร์
การพูดอะไรเกินจริงนั้น ฝรั่งจะใช้คำที่สื่อความหมายถึงคนที่ทำอะไรเยอะเกินจริงว่า “exaggerate” มากกว่า และถ้าทำตัวเยอะ ก็จะใช้คำว่า “overreact” ซึ่งแปลว่าอย่าเวอร์นั่นเอง
Pretty : พริตตี้นำเสนอสินค้า
โดยเฉพาะงานโชว์สินค้าต่าง ๆ ความจริงแล้วคำว่า “pretty” ในภาษาอังกฤษ เป็นได้ทั้งคำคุณศัพท์ (adjective) ที่แปลว่า น่ารัก หรือ สวยน่ามอง ตามงานอีเว้นท์นั้น ฝรั่งจะเรียกว่า “model” ที่แปลว่า “นางแบบ” แต่อาจจะใช้คำว่า exhibition model มากกว่า
American share : แชร์ค่าใช้จ่าย
คำว่า “American share” ที่คนไทยชอบพูด เพื่อสื่อว่าช่วยกันแชร์ ถ้าไปพูดใส่คนอเมริกันล่ะก็ คงต้องงงกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน ถ้าจะพูดทำนองนี้ควรใช้คำว่า “Let’s just pay separately.” ดีกว่า หรืออาจใช้สำนวนว่า go Dutch ก็ได้ เช่น How about dinner tonight? We’ll go Dutch, okay?
Jam : ขอแจม
ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า “jam” ในกรณีแบบนี้ ที่ถูกต้องควรจะใช้ว่า “join” หรือ “come with us” มากกว่า
Back : คนสนับสนุน
“back” คำนี้มีความหมายว่า “หลัง” แต่คนไทยส่วนใหญ่มักจะใช้คำว่า “แบ็ค” เป็นคำกล่าวถึง คนที่คอยสนับสนุนคน ๆ หนึ่งเป็นอย่างดี มากกว่า แนะนำให้ใช้คำว่า “support” หรือ “a backup” แทน
Check bill : เช็คบิล
อีกหนึ่งคำยอดฮิตที่ได้ยินบ่อย ๆ แต่ความจริงแล้วถ้าเราจะใช้ประโยคว่า “คิดเงินด้วย” จะใช้คำว่า “bill (บิล)” เช่น Bill, please. หรือ “Check, please.” แทนนะ ให้เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่าผสมกัน
Hi-so : ไฮโซ
ทุกคนเข้าใจว่ามาจาก High Society ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่เวลาไปสื่อสารกับฝรั่งต่างภาษา ไม่เข้าใจแน่นอน ควรใช้ว่า “Classy” หรือ “Hi-Class” แทน
Mansion : ห้องพัก
“แมนชั่น” หรือ “mansion” แปลว่า “คฤหาสน์” ซึ่งก็อาจจะทำให้ฝรั่งบางคนตาค้างในความรวยของเราได้นะ ถึงแม้ว่า หน้าหอพักจะเขียนว่า ‘แมนชั่น’ ก็ตาม คราวหน้าหากมีฝรั่งมาถามอีกก็ให้บอกว่า เราพักอาศัยอยู่ที่ “Flat” หรือ “Apartment” จะดีกว่า
Never mind : ไม่เป็นไร
สำหรับภาษาไทยนั้นคำว่า ไม่เป็นไรสามารถใช้ได้ทั้งการมีคนมา “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” เรามักจะตอบว่าไม่เป็นไร โดยใช้คำว่า “never mind” แต่จริง ๆ แล้ว คำนี้ ใช้ในกรณีที่เราอธิบายอะไรสักอย่างแล้วผู้ฟังไม่เข้าใจสักที เราก็เลยบอกว่า Never mind (ช่างมันเถอะ) ส่วนคำว่าไม่เป็นไร ถ้าใช้ในกรณีมีคนมาขอบคุณ ต้องพูดว่า “You’re welcome” หรือ “My pleasure” ส่วนกรณีที่มีคนมาขอโทษ สามารถพูดได้ทั้ง “No worries” และ “It’s alright”
Freshy: นักศึกษาใหม่
แท้จริงแล้วคำนี้ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษเลย ซึ่งถ้าจะพูดถึงเด็กปีหนึ่งนั้น ควรใช้คำว่า “Freshman” หรือ “Fresher” มากกว่า
อ่านต่อ “ความแตกต่างระหว่าง MUST และ HAVE TO”
อ่านต่อ “วิธีใช้ JUST/ YET/ ALREADY”
อ่านต่อ “เรียนรู้การใช้ if clause (Conditional Sentences) แบบจำได้ขึ้นใจ”