นอกจากการบอกเวลาจะมีการนับเวลาตามคัวเลขบนนาฬิกาแล้ว ยังมีการใช้ Prepositions มาช่วยในการบอกเวลาให้กระชับ และบอกถึงระยะเวลาได้เป็นอย่างดี มาดูกันต่อเลยว่ามีคำและตัวอย่างประโยคอะไรให้เรานำไปฝึกใช้กันบ้าง
Ago : ผ่านไปแล้ว อยู่หลังระยะเวลา เช่น
- six years ago หกปีที่ผ่านไปแล้ว
- a few minutes ago ผ่านมาไม่กี่นาที
- 2 days ago 2 วันที่ผ่านมา
Since : ตั้งแต่ อยู่หน้าจุดเริ่มต้นของเวลา เช่น
- since 1991 ตั้งแต่ปี 1991
- since 2 P.M. ตั้งแต่บ่ายสองโมง
- since 1st June ตั้งแต่ 1 มิถุนายน
After : หลังจาก มักวางอยู่หน้าเวลา หรือเหตุการณ์ เช่น
- after breakfast หลังอาหารเช้า
- after lunch หลังอาหารกลางวัน
- after 6 P.M. หลังหกโมงเย็น
From + จุดเริ่มต้น + to + จุดสิ้นสุด : จาก…ถึง เช่น
- from 6 A.M. to 10 A.M. จาก 6 โมงเช้าถึงสิบโมง
- from morning to midnight จากเช้าถึงเที่ยงคืน
By : ก่อน อยู่หน้าเวลา เช่น
- by 6 A.M. ก่อน 6 โมงเช้า
- by monday ก่อนวันจันทร์
- by next week ก่อนสัปดาห์หน้า
On : อยู่หน้าวัน หรือ วันสุดสัปดาห์ เช่น
- On my birthday ในวันเกิดของฉัน
- On the holiday ในวันหยุดของฉัน
- On April 1st ในวันที่ 1 เมษายน
During : ในช่วง อยู่หน้าเหตุการณ์ เช่น
- during lunch ระหว่างอาหารกลางวัน
- during the meeting ระหว่างการประชุม
- during the summer ระหว่างช่วงฤดูร้อน
At : ระบุเวลาชัดเจน เช่น
- at night ตอนกลางคืน
- at lunch ตอนกลางวัน
- at 1 P.M. ตอนบ่ายโมง
In : บอกเดือน ปี ฤดู ช่วงเวลา เช่น
- in March ในเดือนมีนาคม
- in winter ในฤดูหนาว
- in 2020 ในปี 2020
Before : ก่อนช่วงเวลานั้น เช่น
- before 1970 ก่อนปี 1970
- before 6 P.M. ก่อนหกโมงเย็น
For : เป็นเวลา เช่น
- for 30 minutes เป็นเวลา 30 นาที
- for 1 week เป็นเวลา 1 สัปดาห์
Till/Untill : จนกระทั่ง จนถึง เช่น
- till 2 P.M. จนกระทั่งบ่ายสอง
- untill morning จนกระทั่งเช้า
- till we meet again จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง