คำนามที่เรารู้จักมีมากมาย เรามาทำความรู้จักกันรูปแบบของคำนามที่แบ่งโดย ความหมาย ซึ่งจะทำให้เรารู้จักหน้าที่ของคำต่างๆ ในภาษาอังกฤษมากขึ้น และนอกจากนี้มาทำความรู้จักกับคำนามเมื่อเอามาต่อประโยคด้วยคำประเภทอื่นจะแบ่งรูปแบบอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
Noun (Classified by meaning)
- Common noun : สามัญนาม คือ คำนามทั่วๆไป เช่น Hair, finger, book, table
2. Proper noun : วิสามัญนาม คือ คำนามเฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อคน : Jane, Lucy, Harry
ชื่อประเทศ : Thailand, America
ชื่อเมือง : Bankok
3. Corrective noun : สมุหนาม คือ คำนามบอกหมวดหมู่ เช่น group, crowd, mob, bananas
4. Abstract noun : นามธรรม
4.1 State : ความ… เช่น Goodness (Adj+ness), evil, honesty
4.2 Action : การ… เช่น Development, Revolution, Management
5.Material noun : นามนับไม่ได้ (ไม่เติม s) เช่น lead, tin, copper, zinc, ice, snow
นอกจากนี้คำนามยังมีการแบ่งตามรูปแบบด้วย Noun (Classified by form)
- Single noun
2.1 Noun+Noun เช่น airforce, cardphone
2.2 Gerund + Noun เช่น swimming-pool, travelling-rug
2.3 Noun + Gerund เช่น Daydreaming, money raising
2.4 Noun + Preposition เช่น looker-on, passer-by
2.5 Noun + Prepositional phrase เช่น father in law, brother in law
2.6 Adjective + Noun เช่น greenhouse, lighthouse, blackbird
2.7 Noun + ful เช่น careful, mouthful
เป็นยังไงกันบ้างได้ทบทวนความจำเล็กๆ น้อยๆ ไปกับเรื่องคำนาม หน้าที่ของคำนามเพื่อนๆ น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่รูปแบบการนำไปใช้ของคำนามนั้นมีหลากหลายประเภท เมื่อเอาคำนามนั้นไปรวมกับรูปแบบต่างๆ ของคำจะกลายเป็นคำที่มีความหมายแตกต่างกันออกไป ทบทวนความจำกันไปแล้วอย่าลืมลองทำข้อสอบเพื่อทบทวนความรู้กันด้วยนะ