คำนาม คือคำที่ใช้เรียกสิ่งต่างๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือบางครั้งอาจรวมไปถึงสิ่งที่ไม่มีตัวตนและจับต้องไม่ได้ เช่น ความเชื่อ ความรัก ความกลัว เป็นต้น โดยคำนามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คำนามนับได้ และคำนามนับไม่ได้ เรามาทบทวนกันหน่อยว่าแบบไหนเรียกว่านับได้และแบบไหนเรียกนับไม่ได้
1) Countable Noun
หมายถึง นามนับได้ คือนามที่สามารถแยกนับได้ว่ามีกี่คน กี่ตัว กี่สิ่ง เป็นจำนวน หนึ่ง สอง สาม … … แบ่งตามจำนวนได้ 2 ชนิดคือ
1.1) Singular (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียว ชิ้นเดียว เช่น dog, girl, everyone, anyone, someone, on one, nothing
1.2) Plural (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป เช่น dogs, girls, mangoes
คำนามบางคำต้องลงท้ายด้วย “s” เสมอ เนื่องจากเป็นคำนามที่อยู่ด้วยกันมากกว่า 1 เช่น
scissors ซิส-เซอร์ส (กรรไกร)
glasses แกลส-เซส (แว่นตา)
goods กู้ดส์ (สินค้า)
*ระวัง คำบางคำลงท้ายด้วย “s” แต่มีความหมายเป็นเอกพจน์ เช่น physics, news, etc
2) Uncountable Noun
หมายถึง นามนับไม่ได้ คือนามที่ไม่สามารถแยกนับได้ว่ามีกี่คน กี่ตัว กี่สิ่ง หรือไม่นิยมนับ ดังนี้
2.1) เป็นผง, เป็นของเหลว, เป็นเม็ด หรือเป็นเส้นเล็กๆ เช่น
rice = ข้าว
sugar = น้ำตาล
2.2) คงสภาพเดิม แม้ว่าจะถูกตัดหรือแบ่ง เช่น
milk = นม
coffee = กาแฟ
หากต้องการให้คำนามนับไม่ได้อยู่ในรูปพหูพจน์ เพื่อบอกปริมาณ จะต้องหากลุ่มคำบอกปริมาณมาเติมด้านหน้า เช่น
A glass of milk = นม 1 แก้ว
หากต้องการทำเป็นคำพหูพจน์ จะต้องเติม -s หรือ -es เข้าไปด้วย เพื่อทำให้อยู่ในรูปพหูพจน์ เช่น
2 glasses of milk = นม 2 แก้ว
เรื่องของคำนามนั้นเป็นบทเรียนชั้นต้นที่เพื่อนๆ ควรศึกษาให้เข้าใจ ประกอบกับการอ่านหนังสือและทบทวนด้วยการทำแบบฝึกหัดหรือข้อสอบจริง เพื่อจะได้ต่อยอดไปยังบทเรียนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น หรือลองเดินผ่านสิ่งของอะไรก็ตามแล้วลองแยกดูว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นคำนามที่นับได้ หรือนับไม่ได้กันแน่