ลักษณะการเชื่อมเสียงในภาษาอังกฤษ มี 2 แบบ คือ การเชื่อมเสียงพยัญชนะกับสระ และการเชื่อมเสียงสระกับสระ
การเชื่อมเสียงพยัญชนะกับเสียงสระ คือ พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดของคำแรก มาเชื่อมเสียงกับอักษรตัวแรกที่เป็นสระของคำที่สอง ตัวอย่างเช่น
turn in อักษร n ที่เป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของคำแรก ไปเชื่อมเสียงกับสระ i ที่เป็นอักษรตัวแรกของคำที่สอง เราก็เลยจะได้ยินฝรั่งออกเสียงคำนี้ว่า เทิน นิน แทนที่จะได้ยินคำว่า เทิน อิน อย่างที่เคยเรียนกันมา
four in the morning อักษร r มาเชื่อมกับเสียงสระ i เวลาออกเสียงจึงกลายเป็น โฟ ริน เดอะ ม๊อร์นิ่ง
การเชื่อมเสียงแบบที่สองคือ เชื่อมเสียงสระกับสระ สระตัวสุดท้ายของคำแรกเชื่อมกับสระตัวแรกของคำที่สอง เสียงสระเมื่อเชื่อมกันแล้ว จะกลายเป็นเสียงได้ 2 เสียงคือ เสียง /w/ และเสียง /y/ แทน
สระที่ต้องมีการห่อปาก เวลาเชื่อมกันแล้วจะออกเป็นเสียง /w/ ส่วนสระที่เวลาออกเสียงมีการเหยียดปากออกด้านข้าง เวลาเชื่อมเสียงจะออกเป็นเสียง /y/ ตัวอย่างเช่น
too often สระ o ของคำแรกมาเชื่อมเสียงกับสระ o ในคำที่สอง เวลาออกเสียงจะกลายเป็น ทู วอฟเฟิ่น แทนที่จะเป็น ทู ออฟเฟิ่น เพราะเสียงสระโอเวลาออกเสียงจะห่อปาก
three egg สระ e ของคำแรกมาเชื่อมกับสระ e ในคำที่สอง เวลาออกเสียงจะกลายเป็น ธรี เย้ก แทนที่จะเป็น ธรี เอ้ก เพราะสระ e เวลาออกเสียงจะต้องเหยียดปากออกด้านข้าง
ในหนึ่งประโยคบางครั้งก็จะมีการเชื่อมเสียงมากกว่าหนึ่งตำแหน่ง ดังนั้นจึงเพิ่มความยากในการฟังให้เข้าใจมากขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่น
She’s in an apartment. ประโยคนี้มีการเชื่อมเสียงหลายตำแหน่ง บางครั้งอาจจะได้ยินประโยคนี้เป็น ชี ซิน แนน นะพาร์ทเมิ่น
แต่หลักการนี้ไม่ได้หมายความว่า เวลาออกเสียงทุกครั้งจะต้องเป็นไปตามกฎนี้ทุกครั้ง การออกเสียงยังคงขึ้นอยู่กับสไตล์การพูดของแต่ละคน แต่ยิ่งเราเข้าใจวิธีการออกเสียงของฝรั่งมากเท่าไหร่ เราก็จะฟังภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากขึ้นแต่สิ่งสำคัญคือ ต้องฝึกฟังบ่อยๆ และสม่ำเสมอจะช่วยได้เยอะเลย
อ่านต่อ “แจกประโยค สำนวน! Everyday expression PART III + ตัวอย่างการใช้”
อ่านต่อ “แจกประโยค สำนวน! Everyday expression PART II + ตัวอย่างการใช้”
อ่านต่อ “แจกประโยค สำนวน! Everyday expression PART I + ตัวอย่างการใช้”