เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเรียน Present simple tense เป็น tense แรกๆ แน่นอนสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนี้เรามาเจาะลึกกับ Tense ที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับ Tense อื่นๆ ให้เราไม่พลาดในเรื่องง่ายๆ
โครงสร้าง Present Simple Tense
Present Simple Tense มีโครงสร้างประโยคที่ง่ายที่สุดแล้วคะ เพียงแต่ต้องระวังการเติม s หรือ es ท้ายกริยาเท่านั้นเอง โดยมีวิธีจำง่ายๆ คือ
- ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ – เติม s หรือ es ท้ายคำกริยา
- ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ – ไม่ต้องเติมอะไรท้ายคำกริยา
เราจะใช้ Present Simple Tense เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันในลักษณะต่อไปนี้
1. ใช้พูดถึงความจริงในชีวิตประจำวัน หรือความจริงตามธรรมชาติ
ตัวอย่าง
- I live in Bangkok
- ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพ
- We eat rice.
- พวกเราทานข้าว
- Water freezes at zero degrees
- น้ำค้างมีความเย็นที่ถูกแช่แข่งอยู่ที่ 0 องศา
2. ใช้พูดถึงนิสัย และการกระทำที่เป็นกิจวัตรประจำวัน
โดยเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เป็นประจำ มักจะมีคำวิเศษณ์แสดงความถี่ (Adverbs of Frequency)
- always เป็นประจำ สม่ำเสมอ
- never ไม่เคย
- habitually ทำประจำจนเป็นนิสัย
- hardly แทบจะไม่เคย
- often บ่อยๆ
- rarely แทบจะไม่เคย
- frequently บ่อยๆ
- scarcely แทบจะไม่เคย
- sometimes บางครั้ง
- barely แทบจะไม่เคย
- naturally โดยปกติแล้ว
- seldom นานๆครั้ง
- usually โดยปกติ
- infrequently นานๆ ครั้ง
การใช้ควบคู่กับช่วงระยะเวลาหรือจำนวนครั้งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่างๆ เช่น every week, once a day, twice a month เป็นต้น
มาดูตัวอย่างกัน
- He usually gets up late on Sunday.
- ปกติแล้วเขามักจะตื่นสายในวันอาทิตย์
- She hardly ever hands in her homework on time.
- เธอแทบจะไม่เคยส่งการบ้านตรงเวลาเลย
3. ใช้พูดถึงความชอบ ( Preference ) หรือเมื่อแสดงความคิดเห็น ( Comments )
ตัวอย่าง
- Kate likes to eat sushi.
- เกดชอบทานซูชิ
- We think that’s a good idea.
- พวกเราว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะ
4. ใช้พูดถึงตารางเวลา (Timetable)
ตัวอย่าง
- The restaurant opens at 7 a.m. and closes around 8 p.m.
- ร้านอาหารเปิดตอน 7 โมงเช้า และปิดตอน 2 ทุ่ม
- The flight arrives at the airport every 2 hours.
- เที่ยวบินจะถึงสนามบินทุกๆ 2 ชั่วโมง
อย่าลืมไปฝึกพูดกันเยอะๆนะ แล้วเจอกันใหม่