การคุยกันผ่านทางโทรศัพท์นั้นเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา ที่ทุกคนต้องใช้กันเป็นประจำทุกวัน และบางครั้งหลายๆ คน อาจจะได้รับสายจากชาวต่างชาติบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานออฟฟิศ ดังนั้นแอดจึงมีตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย
1) … is speaking.
= ..(ชื่อ)…รับสาย/ พูดอยู่ค่ะ
2) This is …
= นี่คือ…
3) Is that …?
= ที่นั่น ..(เบอร์/ สถานที่)… ใช่ไหม
4) Yes, it is.
= ค่ะ ถูกแล้ว
5) No, this is …
= ไม่ใช่ค่ะ ที่นี่คือ ….
6) May I help you ?
= มีอะไรให้ช่วยไหมครับ
การทักทายโดยใช้ภาษาสุภาพและเป็นทางการ
– Hello! สวัสดี
– Good morning. สวัสดีตอนเช้า
– Good afternoon. สวัสดีตอนบ่าย
– Good evening. สวัสดีตอนเย็น
หากต้องการถามความต้องการของผู้ที่โทรมานั้นเอง จะใช้สำนวน “มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ” สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้ เช่น
– May I help you?
– Can I help you?
– How may I help you?
– How can I help you?
หากมีการรับสาย การพูดขอสายในโทรศัพท์ สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้ เช่น
1) May I speak to… please ?
= ขอสายคุณ…ได้ไหมคุ่ะ
2) Can I talk to… please ?
= ขอสายคุณ…ได้ไหมคุ่ะ
3) I want to talk to … please.
= ผมต้องการพูดกับคุณ… ครับ
4) I’d like to speak to… please.
= ฉันขอพูดกับคุณ…. หน่อยครับ
5) Is…. there ?
= คุณ… อยู่ที่นั่นไหม
6) Would you please call Tom to the phone ?
= ช่วยเรียกทอมมารับโทรศัพท์หน่อยได้ไหม
หากต้องการทราบว่าผู้พูดนั่นเป็นใคร สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้ เช่น
1) Who is calling, please?
= ใครโทรมาคะ
2) Who is this speaking, please?
= นี่ใครกำลังพูดสายอยู่ครับ
3) May I ask who’s calling, please?
= ไม่ทราบว่าใครโทรมาครับ
4) What’s your name please?
= ขอทราบชื่อคุณด้วย
5) Could I ask who’s calling, please?
= ขอถามหน่อยนะคะ ว่าใครโทรมา
หากเราต้องการบอกคู่สนทนาว่า “กรุณาถือสายรอสักครู่” สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้
– Please hold on (the line).
– Just a few minutes, please.
– Just a moment, please.
– Wait a minute, please.
– Wait a moment, please.
– Hold on the line, please.
– Will you hold a line for a few minutes, please? = กรุณาถือสายรอสัก 2-3 นาทีได้ไหมครับ
หากผู้ที่ถูกขอสายไม่อยู่ หรือไม่ว่าง ให้กล่าว Sorry หรือ I’m sorry แล้วตามด้วยประโยคต่อไปนี้
1) Sorry to keep you waiting.
= ขอโทษด้วยที่ให้รอ
2) She is not in at the moment.
= ตอนนี้เธอไม่อยู่
3) She is not here today.
เธอไม่มาทำงานวันนี้
4) He’s not available now.
= ตอนนี้เขาไม่ว่าง
5) He isn’t here.
= เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
6) She’s on a lunch break now.
= เธออยู่ในช่วงเวลาพักกลางวันค่ะ
7) He is out for lunch.
= เขาออกไปทานอาหารกลางวัน
8) She is on another line.
= เธอติดสายอยู่ครับ
9) The line is busy.
= สายไม่ว่างเลยครับ
10) He’s in the meeting room.
เขากำลังประชุมอยู่
หากไม่เจอหรือได้พูดคุยกับคนที่เราจะสนทนาด้วย อาจมีการฝากข้อความไว้เพื่อให้ติดต่อกลับ
1) May I leave a message?
= ฉันขอฝากข้อความหน่อยได้ไหม
2) Can I take a message for him?
= ฉันจดข้อความไว้ให้เขาไหม
3) Would you like to leave a message?
= คุณจะฝากข้อความไว้ไหม
ในกรณีที่คนโทรมาผิดเบอร์ สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้
1) Sorry. I think you have the wrong number.
= ขอโทษครับ ผมคิดว่าคุณคงโทรผิด
2) Sorry. I think you called the wrong number.
= ขอโทษครับ ผมคิดว่าคุณโทรผิดแล้วละ
3) I’m sorry. There is no one here by that name.
= ขอโทษค่ะ ที่นี่ไม่มีคนชื่อนั้น
การกล่าวคำอำลาก่อนวางสาย สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้
1) Thank you for calling.
= ขอบคุณครับที่โทรมา
2) Talk (to you) later.
= แล้วคุยกันใหม่นะ
3) Talk (to you) soon.
= แล้วคุยกันใหม่เร็วๆ นี้
4) I will call you later/soon.
= แล้วฉันจะโทรมาใหม่นะ
5) Thank you for your time.
= ขอบคุณครับที่สละเวลา
อย่าลืมเอาไปฝึกกันเยอะๆนะคะ ไลค์และแชร์เพจเราถ้าคุณคิดว่า โพสต์นี้สามารถเป็นประโยชน์ให้กับคุณและเพื่อนๆได้ค่ะ 🙂
อ่านต่อ “มาแชร์ประสบการณ์ Resignation หรือการลาออกในภาษาอังกฤษ “
อ่านต่อ “10 คำถามยอดฮิตที่คุณต้องเจอแน่นอนในการสัมภาษณ์งาน”
อ่านต่อ “Everyday expression คำศัพท์ สำนวนง่ายๆ ที่ใช้ได้ทุกวัน”