ใครเคยเผชิญกับการที่จะต้องทานอาหารเพิ่มทั้งที่ตัวเองอิ่มมากแล้วบ้างคะ? แอดมินเอง อิอิ 🙋🏻💜 วันนี้เดี๋ยวเรามาดูวิธีการปฏิเสธการทานอาหารเพิ่มเป็นภาษาอังกฤษกันค่ะ ว่าเขามีการพูดปฏิเสธแบบสุภาพกันยังไงบ้าง พร้อมกับคำศัพท์ที่เรามักเจอบ่อยๆบนโต๊ะอาหาร มาดูกันเลย
1. No, thank you.
ไม่ล่ะ ขอบคุณนะ
2. No, really. I couldn’t.
ไม่ล่ะ ฉันไม่สามารถทานได้จริงๆ
3. No, honestly. Thanks.
จริงรับจริงๆ ขอบคุณมาก
4. I think I’ve overdosed on it.
ฉันคิดว่าฉันทานสิ่งนี้เยอะมากเกินไปแล้ว
5. I’m afraid I can’t eat that because of my diet.
ฉันเกร็งว่าฉันจะทานไม่ได้แล้วเพราะฉันไดเอท
6. I would, but right now I’m stuffed, thank you.
ฉันอยากจะทานนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันอิ่มแล้ว ขอบคุณนะ
7. Maybe I’ll have some in a little while, I’m too full right now.
ฉันอาจจะทานแค่นิดหน่อยนะ ตอนนี้ฉันอิ่มมากๆเลย
8. Maybe after a while I’ll have some.
เดี๋ยวอีกสักพักฉันอาจจะฉันจะกินนะ
คำศัพท์บนโต๊ะอาหาร
1. Dining table – โต๊ะรับประทานอาหาร
2. Place mat – ที่รองจานอาหาร
3. Coaster – ถาดรองแก้ว
4. Centerpiece – เครื่องประดับที่กลางโต๊ะ, อาหารชิ้นสำคัญที่ตั้งกลางโต๊ะ
5. Candle – เทียน
6. Chandelier – โคมระย้า
7. Ceiling – เพดาน
8. Cutlery – เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร
9. Dining room table – โต๊ะอาหาร
10. Dining room chair – เก้าอี้ห้องอาหาร
11. Lamp – โคมไฟ
12. Light bulb – หลอดไฟ
13. Napkin – ผ้าเช็ดปาก
14. Rug – พรม
15. Paper napkin – กระดาษเช็ดปาก
16. Tablecloth – ผ้าปูโต๊ะ
17. Utensils – เครื่องมือกินข้าว
18. Mug – เหยือกน้ำ
19. Plate – จานแบน
20. Spreader knife – มีดทาเนย
21. Tongs – ที่คีบ
22. Toothpick – ไม้จิ้มฟัน
23. Water mug – เหยือกน้ำดื่ม
24. Pickled chilli – พริกน้ำส้ม
25. Chilli and fish sauce – พริกน้ำปลา
26. Pepper – พริกไทย
27. Fish sauce – น้ำปลา
28. Chilli sauce – ซอสพริก
29. Ketch up, Tomato sauce – ซอสมะเขือเทศ
30. Sweet chilli sauce for chicken – ซอสจิ้มไก่
เป็นยังไงกันบ้างคะ นอกจากประโยคข้างต้นแล้ว เพื่อนๆ เคยใช้ประโยคไหนบ้างคะ ยังไงแชร์กันได้ที่ใต้คอมเม้นท์นี้เลย
อ่านต่อ “หลักการตั้งประโยคคำถาม Information question : WH Questions”
อ่านต่อ “แจกประโยค สำนวน! Everyday Expressions PART I + ตัวอย่างการใช้”
อ่านต่อ “แจกประโยค สำนวน! Everyday Expressions PART II + ตัวอย่างการใช้”