เพื่อนๆคงเคยเจอสองคำนี้บ่อยๆกันใช่มั้ยคะ? แต่เพื่อนๆเคยสงสัยกันมั้ยคะว่าสองคำนี้มีความหมายแตกต่างกันยังไง และมีวิธีใช้ยังไงในภาษาอังกฤษ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจสองคำนี้กันค่ะ มาดูกันเลย
“Anyway” แปลว่า “อย่างไรก็ตาม, ยังไงก็แล้วแต่, อยู่ดีนั่นแหล่ะ”
ตัวอย่าง เช่น
– This dress is so expensive, but I bought it anyway.
ชุดเดรสเนี่ยแพงเหลือเกิน แต่ยังไงฉันก็ซื้อมันอยู่ดี
-I’m afraid I can’t come, but thanks for the invitation anyway.
ฉันเกรงว่าจะมาไม่ได้น่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เชิญ
– Even he is a bad guy, I still love him anyway.
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่นิสัยไม่ดี แต่ยังไงฉันก็ยังรักเขาอยู่ดี
นอกจากนี้ยังสามารถแปลว่า “ช่างเถอะ, ช่างมันเถอะ” เหมือนเรื่องที่พูดมาเนี่ยไม่สำคัญ
ตัวอย่าง เช่น
– My joke seems boring, anyway, forget it.
มุขตลกชั้นดูท่าจะน่าเบื่อ ช่างเหอะ ลืมมันซะ
เราสามารถใช้ Anyway ในการเปลี่ยนเรื่องที่จะสนทนา หรือต้องการวกกลับมาคุยเรื่องที่คุยกันก่อนหน้า หรือต้องการจบบทสนทนา เช่น
สมมติว่าก่อนหน้านี้กำลังคุยกันว่า กลางวันนี้จะกินอะไรกันดี แล้วคุยกันยาวไปเรื่องอื่น สุดท้ายก็วกมาเรื่องข้าวกลางวันต่อ ก็พูดได้ว่า
-Anyway, what’s for lunch today?
เอาล่ะ แล้วตกลงกลางวันนี้จะกินอะไรดี
– Anyway, I’ve got to go now.
เอาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว
Note: Anyway ไม่ต้องเติม s นะจ๊ะ
“By the way” แปลว่า “อีกประการหนึ่ง, อีกอย่างหนึ่ง, ยังไงซะ”
จะใช้ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนหัวข้อกะทันหัน และเป็นหัวข้อที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่คุยกันอยู่ก่อนหน้านี้เลย ประมาณแบบ เพิ่งนึกขึ้นได้
ตัวอย่าง เช่น
-It’s so hot today. I want to have ice cream. By the way, what time is it?
วันนี้ร้อนจัง ฉันอยากกินไอติม เออ.. ว่าแต่ กี่โมงแล้วนะ
–Can you review this for me? By the way, I’m very hungry.
ขอเธอช่วยดูอันนี้ให้ฉันหน่อยสิ ว่าแต่.. ฉันหิวอะ
-I’m so excited for the meeting today. By the way, are you baking apple pie for me?
ฉันตื่นเต้นจังวันนี้จะได้เจอกัน เดี๋ยวนะ.. เธอทำพายแอปเปิ้ลให้ฉันด้วยใช่มั้ย
-Good night. By the way, I miss you.
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ว่าแต่.. เอ่อ.. ฉันคิดถึงคุณนะ
Note: by the way สามารถเอาไปวางไว้ทีไหนก็ได้โดยให้ความหมายทั้งประโยคในแนว “เออใช่” “คือว่า”
เช่น
By the way, I’m hungry.
หรือจะเป็น
I’m hungry by the way.