Direct speech คือการพูดถึงคำพูดของคนอื่นโดยยังคงรูปแบบเดิมไว้เป๊ะๆ หรือพูดตามที่เราจำได้:
ตัวอย่าง: Barbara said, “I didn’t realize it was midnight.”
บาร์บาร่าพูดว่า “ฉันไม่รู้เลยว่ามันเที่ยงคืนแล้ว”
Indirect speech นั้นคือเวอร์ชั่นที่คำพูดของคนที่เรานำมาอ้างนั้นถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว
ตัวอย่าง: Barbara said she hadn’t realized it was midnight.
บาร์บาร่าพูดว่าเธอไม่รู้เลยว่ามันเที่ยงคืนแล้ว (สังเกตว่าแกรมม่าเปลี่ยนไป)
หากต้องการใช้ Direct Speech ลองทำตามคำแนะนำ 5 ข้อของเราดูนะ
1. ดูว่าประโยคนั้นเป็นประเภทไหน (ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคคำสั่ง)
2. ใช้ไวยากรณ์แบบใด
3. ต้องเปลี่ยนบุคคลหรือไม่? (คำสรรพนาม)
4. ต้องย้อนเวลาในไวยากรณ์หรือไม่?
5. ต้องการเปลี่ยนเวลาหรือสถานที่หรือไม่?
ตัวอย่าง: He said: ” I go for a walk every evening”
เขาบอกว่า “ฉันออกไปเดินเล่นทุกเย็น”
He said (that) he went for a walk every evening
เขาบอกว่าเขา(นั้น)ออกไปเดินเล่นทุกเย็น
Ex: He said: ”I will call you tomorrow”
ตัวอย่าง: He said:”I will call you tomorrow”
เขาบอกว่า “ผมจะโทรหาคุณพรุ่งนี้”
He said (that) he would call me the next day
เขาบอกว่าเขา(นั้น)จะโทรหาคุณวันต่อมา
อ่านต่อ “วิธีใช้ EITHER…OR (ไม่…ก็…) และ NEITHER…NOR (ไม่ใช่ทั้ง…และ…)”